ท้ายเกมมีเสียวเหมือนกันสำหรับ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด หลังจากที่ถูกตีไข่แตกท้ายเกมแต่สองประตูในครึ่งแรกของ "โลอิก เรมี่" และ "โยอัน กุฟฟร็อง" ก็เพียงพอให้พวกเขาเบียดชนะ "นกขมิ้น" นอริช ซิตี้ 2-1 เก็บชัย 3 นัดรวดและขยับขึ้นอันดับ 8 ชั่วคราว
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม เซนต์ เจมส์ ปาร์ค
วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2556
นิวคาสเซิ่ล 2-1 นอริช เริ่มเกมมาได้เพียง 2 นาทีประตูแรกก็บังเกิดและคนยิงก็เป็นหน้าเดิมๆอย่างโลอิก เรมี่หลังแนวรับนอริชปล่อยบอลจากลูกเตะมุมของโยอัน กาบายเฉย หัวหอกน้ำหอมเลยได้โหม่งเข้าไปตุงตาข่ายง่ายๆ นิวคาสเซิลออกนำ 1-0
ฟอร์มจากเกมกับสเปอร์สยังอยู่ นาที 12 นอริชมีโอกาสตีเสมอจากจังหวะหลุดเดี่ยวดวลกับทิม ครูลของเนธาน เร็ดมอนด์ แต่ปีกดาวรุ่งกลับยิงข้ามคาน และนาทีต่อมาทีมเยือนได้โอกาสอีกครั้งจากการยิงของเลอรอย เฟอร์ มิดฟิลด์ทีมชาติฮอลแลนด์แต่ก็ติดเซฟนายทวารเพื่อนร่วมชาติและเป็นโคลอชชินี่เคลียร์บอลพ้นอันตรายออกไป
สงสัยฉลองจนมึนไปหน่อย นาที 19 กาบายรับบอลจากกุฟฟร็องตรงกลางสนาม จากนั้นกระชากขึ้นมาแล้วตัดเข้าขวาแล้วซัดไกลแต่ยิงเฉือนทำให้บอลพุ่งข้ามคานไปไกล
เกมผ่านครึ่งชั่วโมงแรกนิวคาสเซิ่ลเกือบนำห่างจากจังหวะโต้กลับ โชล่า อเมโอบี้ในวัยขึ้นเลขสามดูเหมือนจะเริ่มเขี้ยวงอกหลังรับบอลจากกลางสนามแล้วโชว์คิลเลอร์พาสสวยๆให้มุสซ่า ซิสโซโก้วิ่งทำทางหลุดแนวรับแล้วกดด้วยขวาแต่บอลหนีมือจอห์น รัดดี้มากไปจนหลุดเสาสองออกหลัง
นอริชได้โอกาสดีๆในนาที 33 เร็ดมอนด์ได้บอลตรงริมเส้นฝั่งขวาแล้วเปิดโค้งอย่างแม่นยำเข้าหัวแกรี่ ฮูเปอร์ที่นึกว่ากลับบ้านไปแล้วขึ้นชนะแนวรับนิวคาสเซิลแล้วสะบัดไปเสาสอง พิลคิงตันวิ่งไปจะซ้ำให้เข้าแต่มุมแคบไปเลยทำได้แค่โหม่งกลับเข้ากลางซึ่งไม่มีผู้เล่นทีมเยือนเลยและถูกโคลอชชินี่เคลียร์ทิ้งได้อีกครั้ง
นาที 38 นิวคาสเซิลได้ประตูเพิ่มจนได้ มุสซ่า ซิสโซโก้รับบอลจากเพื่อนทางฝั่งขวาก่อนเลี้ยงจี้เข้าหามาร์ติน โอลส์สันแล้วเปิดเฉือนๆเข้ากลาง อเมโอบี้วิ่งมาโขกเต็มๆหัวติดเซฟรัดดี้แต่บอลกระฉอกเข้าทางกุฟฟร็องซ้ำเข้าไปง่ายๆ เจ้าบ้านนำห่าง 2-0
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกเกมเกือบขาด เรมี่ได้บอลทางฝั่งซ้ายก่อนเลี้ยงตัดเข้ามาแล้วจ่ายเข้ากลางให้อเมโอบี้ที่หน้าเขตโทษ หัวหอกไนจีเรียจับแล้วกดเรียดด้วยขวา บอลพุ่งจะเสียบมุมซ้ายแต่รัดดี้พุ่งปัดข้ามคานได้อย่างยอดเยี่ยมช่วยให้สถานการณ์ของนอริชยังไม่เลวร้ายไปกว่านี้
จบครึ่งแรกนิวคาสเซิ่ลนำ 2-0 แม้รูปเกมไม่ห่างมากนักแต่จังหวะเข้าทำอันตรายและเฉียบคมกว่า ขณะที่กุนซือของนอริชอย่างคริส ฮิวจ์ตันคงต้องแก้เกมอย่างหนักหากไม่อยากให้ทีมแพ้
ต่อมาในช่วงครึ่งหลังในนาทีที่ 48 คริส ฮิวจ์ตันต้องแก้เกมอีกครั้งเมื่อพิลคิงตันได้รับบาดเจ็บจนต้องส่งโยฮัน เอลมานเดอร์ลงสนามแทน เรียกได้ว่าเป็นการรีเทิร์นของกุนซือผิวหมึกที่ไม่ดีเอาซะเลย
นาทีถัดมานอริชก็เกือบตีไข่แตก บอลเปิดจากซ้ายเข้าเขตโทษ ฮูเปอร์แย่งโหม่งกับแนวรับนิวคาสเซิล บอลลอยขึ้นสูงแล้วตกมาเข้าทางฮูเปอร์ที่เบียดชนะก่อนวอลเลย์ด้วยขวาไม่จับแต่ออกข้างไป
เนธาน เร็ดมอนด์น่าจะเป็นหนึ่งในสิ่งดีๆไม่กี่อย่างของนอริชในเกมนี้หลังได้โอกาสอีกครั้งในนาที 65 รับบอลทางฝั่งซ้ายแล้วลากตัดเข้าในหนีมาปู ย็องก้า-เอ็มบีว่าและแตะหลบซิสโซโก้ก่อนซัดด้วยขวาแต่บอลเหินข้ามคานไปอีกครั้ง
เกมของทั้งสองฝ่ายเริ่มไม่ขยับเขยื้อน นอริชพยายามบดด้วยการโยนจากริมเส้นและจังหวะทะลุทะลวงของเร็ดมอนด์แต่ยังไม่เป็นผล ส่วนนิวคาสเซิลตั้งรับได้เหนียวแน่นแต่จังหวะสวนกลับเริ่มไม่เน้นทำให้ยังไม่ได้โอกาสนำห่าง
นาที 79 นอริชตีไข่แตกจนได้จากจังหวะเตะมุมฝั่งขวาของเร็ดมอนด์ บอลโยนพุ่งๆเข้ากลางเขตโทษ เลอรอย เฟอร์ขึ้นโขกคนเดียวแบบไร้ตัวประกบ บอลเสียบเสาขวามือเข้าไปแม้ครูลจะปัดได้ ทีมเยือนไล่มาเป็น 1-2
นาที 85 นิวคาสเซิลเกือบนำห่างอีกครั้ง ฮาเต็ม เบ็น อาร์กฟาตัวสำรองได้บอลตรงริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนโยกหลบกระชากหนีตัวประกบไปสุดเส้นแล้วเปิดพุ่งเข้ากลาง ปาปิสส์ ซิสเซ่ตัวสำรองอีกคนได้โหม่งสะบัดไปเสาสองแต่บอลเฉียดสามเหลี่ยมออกไป
ช่วงทดเจ็บนิวคาสเซิลได้โอกาสทองที่จะปิดเกม เรมี่ลากขึ้นมาดวลกับแนวรับนอริชตัวต่อตัวโดยมีซิสเซ่วิ่งประคองทางขวา แต่หัวหอกฟอร์มแรงไม่ยอมจ่ายและเลือกจะลากไปยิงเองแต่ติดบล็อคกองหลังทีมเยือนหลุดออกไปจนซิสเซ่เม้งเพื่อนอย่างหัวเสีย
จบเกมเป็นอันว่านิวคาสเซิลยังโชว์ฟอร์มได้ดีเปิดบ้านชนะนอริชไป 2-1 ขยับขึ้นอันดับ 8 มีแต้มเท่าแมนฯ ยูไนเต็ดและสเปอร์สชั่วคราว ส่วนนอริชยังจมโซนล่างของตารางต่อไป