อย่างที่หลายคนได้ทราบกันไปแล้วว่ารางวัลบัลลงดอร์ หรือนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกนี้ นักเตะสามรายสุดท้ายที่มีชื่อเข้าชิงก็คือ “คริสเตียโน่ โรนัลโด้” จากรีล มาดริด “ลิโอเนล เมสซี่” จากบาร์เซโลน่า และ “ฟร้องค์ ริเบรี่” จากบาเยิร์น มิวนิค แต่ทว่านอกจากนักเตะสามรายนี้แล้ว ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ายังมีนักเตะรายอื่นๆที่กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและควรมีลุ้นรางวัลนี้เช่นกัน อย่างในรายของ ดีเอโก้ คอสต้า กองหน้าขอมถล่มประตูของทีมตราหมี แอตแลนติโก มาดริด
ทางด้านกุนซือดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ก็ออกมายกย่องด้วยตนเองเลยว่าควรที่จะมีลุ้นซิวรางวัลบัลลงดอร์เช่นกัน เพราะลูกทีมรายนี้ของตนกำลังโชว์ฟอร์มการเล่นได้ฮอตมากจริงๆ โดยชี้ว่าหากทางฟีฟ่ามีการเลื่อนเส้นตายการปิดโหวตออกไปนักเตะกองหน้ารายนี้ก็จะได้มีลุ้นรางวัลเช่นเดียวกับนักเตะสามรายนั่นแหละ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าบัลลงดอร์ปีนี้จะหมดหวังไปแล้ว แต่กุนซือทีมหมีก็คิดว่า ดิเอโก้ คอสต้านั้นจะเข้าใกล้กับการคว้ารางวัลบัลลงดอร์มากยิ่งขึ้นกว่านี้อีกในปีหน้า ซึ่งก็แน่นอนว่าหลายคนก็คงคิดไม่ต่างไปจากกุนซือซิเมโอเน่สักเท่าไหร่ เพราะคอสต้าถือว่าเป็นนักเตะที่น่าจับตามองมากที่สุดในโลกเวลานี้จริงๆ เรียกได้ว่าจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับหลุยส์ ซัวเรซของทีมลิเวอร์พูล แกเร็ธ เบลของทีมรีล มาดริด
หรือกระทั่งเนย์มาร์ของทีมบาร์เซโลน่าเองก็เช่นกัน ส่วนเรื่องของการทำทีมตราหมีของซิเมโอเน่ในฤดูกาลนี้ที่ผลงานดีมากๆนั้น เป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ โดยเฉพาะกับแนวคิดของการลงเล่นในแต่ละนัดของลูกทีมตราหมีของเขา เพราะทีมตราหมีถือเป็นทีมที่ไม่ได้มีซุปตาร์นักฟุตบอลมากมายเหมือนกับบาร์เซโลน่า หรือรีล มาดริด ซึ่งซิเมโอเน่เผยว่าตนเองและลูกทีมทำการแข่งขันแต่ละนัดให้เสมือนว่าเป็นการแข่งขันนัดสุดท้ายแล้ว นักเตะทุกคนจึงทุ่มเททุกอย่างแบบไม่มีกั๊กผลงานจึงออกมาแบบที่เห็น และก็จะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนจบฤดูกาล