กลายเป็นสองกุนซือที่ปะทะคารมสวนกันกลับไปกลับมาซะแล้วครับ สำหรับ มานูเอล เปเยกรินี่ และ โจเซ่ มูริญโญ่ โดยล่าสุดนายใหญ่แห่งสแตมฟอร์ดบริดจ์ได้ออกมาตอกกลับทางเปเยกรินี่ที่หาว่าทีมของเขาทุ่มเงินซื้อนักเตะเพื่อความสำเร็จด้วยการแจกแจงจำนวนเงินซื้อ และขายนักเตะในช่วงตลาดนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมาให้ได้ทราบอย่างละเอียด
ทั้งนี้มูริญโญ่ระบุว่าตนเองอยากจะกล่าวถึงประเด็นของเปเยกรินี่ กุนซือฝีมือดีของทีมเรือใบที่ตนเองให้การเคารพ ซึ่งได้ออกมาคอมเม้นท์ถึงเรื่องการใช้จ่ายเงินของทีมตน ว่าที่จริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ในตลาดนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมาทีมตนเองขายฮวน มาต้าได้เงิน 37 ล้านปอนด์ ขายเควิน เดอ บรอยน์ได้เงิน 18 ล้านปอนด์ ซึ่งรวมกันแล้วเป็นเงินสูงถึง 55 ล้านปอนด์ ส่วนการซื้อทีมตนซื้อเนมานย่า มาติซมาในราคา 21 ล้านปอนด์ และซื้อโมฮาเหม็ด ซาลาห์ มาจากบาเซิ่ลในราคา 11 ล้านปอนด์ รวมกันแล้วเป็นเงิน 32 ล้านปอนด์ เท่ากับว่าทีมตนเองมีกำไรในการซื้อขายนักเตะรอบนี้สูงถึง 23 ล้านปอนด์ ซึ่งนับว่าสูงทีเดียว นอกจากนี้มูริญโญ่ก็ยังได้กล่าวยืนยันจุดยืนของการทำทีมสิงห์บลูของตนในครั้งนี้ด้วยว่าเป็นการทำทีมเพื่ออนาคต ทีมสิงห์บลูของเขาชุดนี้เป็นทีมเพื่อ 10 ปีข้างหน้า ต่างจากทีมอื่นๆ โดยเฉพาะแมนฯซิตี้ของเปเยกรินี่ที่หวังจะทำทีมให้คว้าแชมป์ได้ทันในที
ส่วนกับประเด็นร้อนของยาย่า ตูเร่ มิดฟิลด์สารพัดประโยชน์ของซิตี้ที่กำลังถูกวิจารณ์ทำนองว่าเขาน่าจะถูกลงโทษย้อนหลังจากการเล่นน่าเกลียดในเกมซิตี้เสมอนอริช 0-0 นายใหญ่แห่งสแตมฟอร์ดบริดจ์ก็ไม่พลาดที่จะกล่าวถึงด้วย โดยเขาชี้ว่าสมควรอย่างยิ่งที่ตูเร่ควรจะโดนลงโทษ เพราะภาพจากเทปมันชัดเจนมากว่าเขาเล่นผิดกติกา หากตูเร่ไม่โดนลงโทษครั้งนี้นั่นเท่ากับว่าการใช้เทปวีดีโอมานั่งดูย้อนหลังไม่ได้ช่วยอะไรเลย นักเตะสามารถทำอะไรในสนามก็ได้หากว่าผู้ตัดสินไม่เห็น
