ลิเวอร์พูล - สเปอร์ส (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 30 มีนาคม 2557
เวลา : 22:00 น.
ถ่ายทอดสด : CTH สเตเดี้ยม 2
เปรียบเทียบความพร้อมของทีม ลิเวอร์พูล : "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ภายใต้การทำงานของกุนซือตาหวาน "เบรนแดน ร็อดเจอร์ส" เดินหน้าไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไปอย่างมุ่งมั่น หลังจากกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาเปิดรัง แอนฟิลด์ ทุบ ซันเดอร์แลนด์ 2-1 นับเป็นชัยชนะเป็นนัดที่เจ็ดติดต่อกันเข้าไปแล้ว
ความพร้อมล่าสุด ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเพิ่มเติมให้ ร็อดเจอร์ส ต้องเป็นกังวล จะมีก็แค่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมต้องเล่นอย่างระมัดระวังตัว เพราะโดนใบเหลืองไปแล้วถึงเก้าใบในฤดูกาลนี้ ซึ่งหมายความว่า หากถูกจดชื่ออีกเพียงครั้งเดียว ก็จะต้องติดโทษแบนสองนัด ชวดช่วยทีมในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล
กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ จะเลือกทีมจากชุดเดิมๆ โดยขาดแค่พวกที้เดี้ยงยาวอย่าง โฆเซ่ เอ็นริเก้ กับ เซบาสเตียน โคอาเตซ โดย บีร็อด จะต้องตัดสินใจว่า จะยึดทีมที่หวด แมวดำ ต่อไปหรือไม่ โดยสี่เกมที่ผ่านมา ซึ่งทีมชนะรวด มีจุดที่น่าสนใจตรงที่ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กับ ราฮีม สเตอร์ลิง จะถูกสลับใช้งาน ทำให้เป็นที่คาดหมายว่า หลังได้โอกาสมาสองเกมติดต่อกันแล้ว ดาวเตะชาวบราซิเลียน ก็อาจต้องหลีกทางให้เจ้าหนู สเตอร์ลิง บ้าง
ตัวหลักๆ อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา แนวรับนำโดย ซิมง มิโญเล่ต์ และ มาร์ติน สเคอร์เทล กองหลังจอมแกร่ง ส่วนแดนกลางมี เจอร์ราร์ด, โจ อัลเลน และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน อดีตดาวเตะ ซันเดอร์แลนด์ ปักหลักหลังคู่กองหน้าที่ฮอตสุดๆ อย่าง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กับ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวซัลโว 28 เม็ด โดยทั้งสองคนช่วยกันกดไปแล้วถึง 48 ดอก
สเปอร์ส : ส่วนทางด้านของ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส ของกุนซือ "ทิม เชอร์วู้ด" ยังต้องเล่นเต็มที่เพื่อศักดิ์ศรี แม้ตั๋วไปลุย แชมเปี้ยนส์ ลีก จะดูไกลเกินคว้าแล้ว เหมือนนัดล่าสุดที่เปิดบ้านไล่แซง เซาธ์แฮมป์ตัน 3-2 ที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน
กระนั้น สาวกคลับไก่ ยังต้องลุ้นตัวโก่งให้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ศูนย์หน้าตัวเก่ง ฟิตพอที่จะลงช่วยทีมหยุดความร้อนแรงของ ลิเวอร์พูล หลังจากที่ดาวเตะโตโก มีอาการเจ็บส้นเท้าจนวืดนัดก่อน แต่ดูเหมือน เชอร์วู้ด จะมองโลกในแง่ดีว่า อดีตแข้ง อาร์เซน่อล จะฟิตทันแน่
ทว่าสำหรับ ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็กขวาทีมชาติอังกฤษ ยังต้องพักรักษาอาการเจ็บโคนขาหนีบต่อ ทำให้จะเป็นแค่ผู้ชมเช่นเดียวกับพวกที่เดี้ยงอยู่แล้วอย่าง เอริก ลาเมล่า, เอเตียน กาปู และ วลาด คิริเคส แม้รายหลังสุด จะใกล้รีเทิร์นเต็มที โดยมีคิวลงเล่นให้ทีมรุ่น ยู 21 กับ อาร์เซน่อล ในวันอังคารหน้า
เชอร์วู้ด จะวางระบบ 4-2-3-1 โดยยังไม่ชัวร์เช่นกันว่า ไมเคิ่ล ดอว์สัน กัปตันทีมจะฟิตพอหรือไม่ หลังเพิ่งกลับมาซ้อมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ส่วนตัวหลักอื่นๆ น่าจะเป็นชุดเดียวกับที่ยิงแซง เซาธ์แฮมป์ตัน ทั้งคู่กองกลาง นาบิล เบนทาเล็บ กับ มูสซ่า เด็มเบเล่ ส่วน คริสเตียน เอริกเซ่น ตัวรุกทีมชาติเดนมาร์ก ที่ยิงได้ในนัดก่อน จะได้ปั้นหลังหัวหอกอย่าง อเดบายอร์ ซึ่งน่าฟิตกลับมาทัน ผนึกกำลังกับ กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน ฮีโร่ที่เปลี่ยนลงซัดดับ นักบุญ
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล : (4-1-2-1-2) : ซิมง มิโญเล่ต์ - เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดน แอ็กเกอร์, จอน ฟลานาแกน - สตีเว่น เจอร์ราร์ด - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจ อัลเลน - ราฮีม สเตอร์ลิง - หลุยส์ ซัวเรซ, แดเนียล สเตอร์ริดจ์
สเปอร์ส : (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส - ไคล์ นอห์ตัน, ยูเนส กาบุล, แยน แฟร์ต็องเก้น, แดนนี่ โรส - มูสซ่า เดมเบเล่, นาบิล เบนทาเล็บ - อารอน เลนน่อน, กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน, คริสเตียน เอริกเซ่น - เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
วิจารณ์เกมการแข่งขัน
ศึกบิ๊กแมตช์ประจำโปรแกรมนี้ที่แอนฟิลด์ เรียกได้ว่าน่าสนใจอย่างมากเลยทีเดียว เจ้าถิ่น "หงส์แดง" เวลานี้0ฟอร์มที่ยอดมากและมีลุ้นแชมป์เต็มตัว เพราะฉนั้นพวกเขาต้องเน้นเพื่อเก็บชัยชนะเพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ตัวเอง อย่างไรก็ตาม เกมนี้ถือว่าไม่ง่ายนัก แม้นัดแรกที่เจอกัน "หงส์แดง" จะถล่ม "สเปอร์ส" ได้ถึง 5 เม็ด เพราะ "ไก่เดือยทอง" หวังบุกมาล้างแค้นเต็มที่ บวกกับเรียกความมั่นใจกลับมาได้ถูกที่ถูกเวลาพอดีจากชัยชนะในเกมล่าสุด เกมรุกของ "หงส์แดง" นับว่าจัดจ้านเลยทีเดียว ขณะที่ฟากของ "เล้าไก่" เกมรุกยังไม่แน่นเท่าไหร่ จึงมีโอกาสที่เจ้าถิ่นจะเบียดชนะไปได้แบบหวุดหวิด
