ดูท่าจะไม่จบง่ายๆซะแล้ว สำหรับประเด็นวิจารณ์การทำหน้าที่ของผู้ตัดสินจาก โจเซ่ มูริญโญ่ (ในเกมที่ซันเดอร์แลนด์บุกไปเอาชนะสิงห์บลูได้ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์) เพราะหลังจากที่เอฟเอ หรือสมาคมลูกหนังเมืองผู้ดีออกมาตั้งข้อหาแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม เพื่อรอให้เขาตอบรับข้อหาดังกล่าว และจัดการลงโทษไปตามระเบียบต่อไป เขากลับออกมาปฎิเสธที่จะรับข้อหาดังกล่าวซะอย่างนั้น หรือว่าง่ายๆคือโจเซ่ มูริญโญ่ไม่คิดว่าตนเองผิดที่ไปจวกการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในเกมดังกล่าว หากแต่เป็นผู้ตัดสิน “ไมค์ ดีน” นั่นแหละที่ทำหน้าที่ผิดพลาด และสมควรได้รับการลงโทษ
อย่างไรก็ตามจากการที่โจเซ่ มูริญโญ่ปฏิเสธข้อกล่าวหาจากเอฟเอในครั้งนี้ ซึ่งเป็นผลให้เขาไม่ถูกลงโทษจากเอฟเอในทันทีนั้น แต่อย่างไรเสียเอฟเอก็ต้องมีการพิจารณาเรื่องนี้ รวมถึงพูดคุยกับทางโจเซ่ มูริญโญ่เพื่อนำไปสู่การลงโทษในภายหลังอยู่ดี แต่ก็นั่นแหละครับ การกระทำของโจเซ่ มูริญโญ่ในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าตัวเขาไม่พึงพอใจกับมาตรฐานการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในอังกฤษจริงๆ ซึ่งอย่างน้อยๆแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ทำให้ตัวเขารอดพ้นการถูกลงโทษจากเอฟเอในท้ายที่สุด แต่หากเรามองกันในแง่ดี การที่มูริญโญ่ปฏิเสธข้อกล่าวหาจากเอฟเอในครั้งนี้ก็อาจทำให้เอฟเอหันไปมองที่ความผิดพลาดในการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินบ้าง
และก็อาจนำมาสู่การการยกระดับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินให้ดียิ่งขึ้น หรือเกิดความผิดพลาดน้อยลง ส่วนว่าในเกมที่ซันเดอร์แลนด์บุกเอาชนะสิงห์บลูที่สแตมฟอร์ดบริดจ์นั้น ผู้ตัดสินทำหน้าที่ผิดพลาดจริงๆหรือไม่ หรือเป็นมูริญโญ่เองที่ตีโพยตีพายไปเอง เหตุเพราะลูกทีมตนเองแพ้ ถ้าว่ากันตรงๆก็ต้องบอกว่าเป็นผู้ตัดสินนั่นแหละที่ทำหน้าที่ผิดพลาดจริงๆ โดยเฉพาะกับจังหวะเสียจุดโทษของเชลซี กระทั่งนำมาสู่การเสียประตูนำ และกลายเป็นประตูที่ทำให้พวกเขาแพ้ แต่สิ่งที่มูริญโญ่วิจารณ์ผู้ตัดสิน หรือจวกผู้ตัดสินนั้นเป็นสิ่งที่หนักเกินจริงหรือเปล่านั่นก็ขึ้นอยู่ที่มุมมองของแต่ละคน
