ป่านนี้กล้วยติดคอแล้วสำหรับ "ป๋าเฟอร์กี้" เมื่อ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น้ำตาตกร่วงเอฟเอ คัพไปจากลูกยิงลอยตัววอลเล่ย์สุดสวยของบาเป็นประตูชัยส่ง "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี ที่วันนี้เกมเนี๊ยบได้ใจเฉือนเอาชนะไป 1-0 รอชนกับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในรอบรองชนะเลิศ
เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดรีเพลย์
วันจันทร์ที่ 1 เมษายน 2556
เชลซี 1 - 0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ เปิดฉากเริ่มมาก็ตามสูตรเจ้าบ้านเลย "สิงห์บลูส์" เชลซีครองบอลได้เนื้อกว่าทีมเยือนค่อนข้างเยอะ แมนฯยูไนเต็ดจะเซ็ตกันไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แถมยังต้องระวังตัวทีเด็ดอย่างอาซาร์ที่พร้อมกระชากไปลุยได้ทุกเมื่อด้วย
แม้ว่าโอกาสในการลุ้นประตูจะไม่มีให้เห็นเลยก็ว่าได้ แต่นี่ก็เป็นการต่อสู้กันในทุกๆจุดและทุกการเล่นของนักเตะทั้งสองทีม วัดกันช็อตต่อช็อต รวมทั้งแท็คติกของกุนซือที่วางมาให้ไว้ด้วย
นาทีที่ 20 ถึงกับเล่นต่อไม่ได้เลยสำหรับโคลที่พยายามจะเข้าดักบอลที่เวลเบ็คแตะหลบมาแล้วจิ้มอีกครั้งกระชากหนี เพราะจังหวะที่จะออกตัวตามกล้ามเนื้อหลังต้นขาดันกระตุกขึ้นมาซะก่อน สุดท้ายเลยต่อไม่ไหว ต้องถูกเปลี่ยนออกไป
ที่จริงจังหวะนี้แมนฯยูไนเต็ดมีลุ้นมาก แต่นานี่กลับทำเสียของเพราะเพื่อนเติมขึ้นสองฝั่ง มีตัวผู้เล่นมากกว่า แต่เลือกแตะเสียเวลา ก่อนจะจ่ายสั้นพลาดไป
นาทีที่ 27 นึกว่าจะล็อกหลอกสวยๆซะแล้วสำหรับเอร์นานเดซในช่วงที่แมนฯยูไนเต็ดกำลังเล่นได้ดีขึ้นเรื่อย เขาหลอกกองหลังของเชลซีด้วยการแตะหักเข้ากลางได้ แต่มันเข้าซ้ายเลยพยายามจะล็อกกลับมาขวา สุดท้ายเลยลื่นล้มไปเอง
อีก 4 นาทีต่อมา เป็นโอกาสจังๆครั้งแรกของเกมเลยก็ว่าได้ เมื่ออาซาร์ลากบอลขึ้นไปถึงเขตโทษ ก่อนที่จะไหลต่อให้กับบาที่บอกอยากหวดตั้งแต่เริ่มเกมแล้วเลยจัดการซัดเน้นๆไปเสาแรก แต่เด เกอาไม่พลาดล้มตัวใช้ขาบล็อกทิ้งไปได้
นาทีที่ 36 เหมือนกับจังหวะยิงตีเสมอเมื่อเกมก่อนเลย เมื่ออาซาร์เล่นกับเพื่อนก่อนวิ่งเข้าไปตวัดยิงตรงมุมกรอบเขตโทษ บอลพุ่งโค้งเหมือนจะเสียบสามเหลี่ยม แถมเด เกอาได้แต่ยืนมองแล้วด้วย แต่บอลดันเลยออกไปซะได้
นาทีที่ 41 น่าจะได้ประตูจริงๆสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เมื่อเอร์นานเดซขึ้นไปวัดยิงนอกกรอบเขตโทษ เช็กโดนบังอยู่ตัดสินใจทิ้งตัวออกซ้าย แต่บอลพุ่งเข้าตรงกลาง ถึงอย่างนั้นก็ยังใช้เท้าปัดป้องเอาไว้ได้อยู่
ช่่วงท้ายเกมจังหวะมีให้ลุ้นสนุกหลากหลายเหลือเกิน เริ่มจากแมนฯยูไนเต็ดที่ร้องจะเอาจุดโทษจากจังหวะนานี่โดนเบอร์ทรานด์รั้งแล้วสะกิดโดนข้อเท้าในเขตโทษแต่ผู้ตัดสินนิ่ง ก่อนเชลซีมามีลุ้นลูกยิงโอบี มิเกลที่แฉลบตัวบล็อกพุ่งหลุดออกหลัง
จบ 45 นาทีทั้งสองทีมยังคงเสมอกันอยู่ 0-0 แต่ถ้าเล่นกันในทรงอย่างในช่วงท้ายครึ่งแรกแล้วเนี่ย คงจะมีประตูให้ได้เห็นกันแน่นอน
ลงสนามมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลังในนาทีที่ 49 นี่คือลูกยิงระดับโลกชัดๆเลยจริงๆ เป็นอะไรที่สวยงามมากจริงๆ เมื่อมาต้าแตะบอลหาช่อง ก่อนจะเห็นว่าบาวิ่งฉีกขึ้นหน้า เลยตักโด่งไปให้ บาพลิกออกจากตัวประกบอย่างเฟอร์ดินานด์ได้ ก่อนจะลอยตัวตวัดเกี่ยวบอลยิงเปลี่ยนทางพุ่งโค้งไปเสียบเสาไกล ชนิดที่เด เกอาได้แต่ยืนทำใจ เชลซีขึ้นนำด้วยประตูสุดสวย 1-0
เกมกำลังเข้าสู่ช่วงหนึ่งชั่วโมง แม้ว่าแมนฯยูไนเต็ดจะพยายามลุยเพื่อเอาประตูคืนกลับมา แต่ถ้ามาปล่อยหลังทิ้งไว้ไม่ได้ เพราะพวกเขาออกอาการรวน ออกอาการเป๋อยู่เหมือนกันเวลาโดนเชลซีโจมตี
ไม่น่าเชื่อจริงๆว่าจะเซฟได้สำหรับเช็ก จากจังหวะที่เวลเบ็คโชว์การครอสบอลด้านข้างที่เพื่อนๆตะลึง ยาวไปให้กับเอร์นานเดซที่สอดไปเสาสอง ก่อนจะตั้งหัวโหม่งเน้นๆ แค่ไม่กี่หลา แต่เช็กใช้มือเดียวปัดทิ้งออกไปได้อย่างสุดยอด จนถึงขนาดที่เอร์นานเดซลุกขึ้นมาชมเลย
นาทีที่ 61 ทางเลือกเดียวของพวกเขาจริงๆสำหรับแมนฯยูไนเต็ดที่ส่งฟาน เพอร์ซี่ลงไปลุ้นตีเสมอ แล้วถอดเอาเคลฟเวอร์ลี่ย์ที่เหมือนจะเหนือยๆแถมโดนเหลืองแล้วด้วยออกจากสนามไป
นาทีที่ 68 เป็นความผิดพลาดของคาร์ริคเลยที่พยายามจะเล่นชิ่งจังหวะกับผู้เล่นเชลซี แล้วไปจิ้มบอลเข้าทางของอาซาร์ที่สปีดหนีกองหลังของแมนฯยูไนเต็ดถึงในเขตโทษ ก่อนบรรจงปาดเน้นๆไปเสาสอง แต่บดไปหน่อย บอลเลยพุ่งหลุดกรอบออกไปเยอะเหมือนกัน
เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย แม้ว่าการเปลี่ยนฟาน เพอร์ซี่ต่อด้วยส่งกิ๊กส์ลงเล่นนั้นจะทำให้เกมของแมนฯยูไนเต็ดมีจังหวะการเล่นเพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าเอาจริงๆก็ไม่ได้กดดันทางเชลซีสักเท่าไหร่ แถม "สิงห์ไฮโซ" ยังสวนได้เรื่อยด้วย
แม้ว่าจะมีการปรับแท็คติกเอาวาเลนเซียโยกจากการยืนแบ็คในตอนแรกขึ้นไปเป็นปีกขวาตามที่ถนัดเหมือนเดิม แต่เขาก็ยังช่วยอะไรทีมมากไม่ได้ เพราะฟอร์มหดหาย แตะทีตัวเองไม่ได้เปรียบ แถมยังออกแต่ขวาเหมือนเดิม
เข้า 10 นาทีสุดท้าย แมนฯยูไนเต็ดต้องส่งเอายังลงไปช่วยเพิ่มตัวปั้นเกม ถอดเอาเวลเบ็คออก เพื่อที่จะได้โจมตีเพิ่มที่ด้านข้างบีบเชลซีให้ได้มากขึ้นในช่วงเวลาที่เหลือนี้
นาทีที่ 87 นึกว่าจะตีเสมอได้ แต่ต้องผิดหวังเลยสำหรับแมนฯยูไนเต็ดเพราะฟาน เพอร์ซี่ได้ยืนยิงจังก้าในในเขตโทษ แต่เหมือนบอลที่ยังจ่ายมาให้นั้นแรงไปนิดเลยทำให้จังหวะวอลเล่ย์มันแป้กหลุดโด่งออกไปไกล
ช่วงท้ายเกมเชลซีเองก็มีจังหวะที่จะได้เหมือนกัน แต่มันเฉียดๆเท่านั้น อย่างไรก็ตามจบ 90 นาทีพวกเขาก็เป็นฝ่ายเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพไปเจอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้