เป็นการเข้ารอบที่แฟนบอลหายใจไม่ทั่วท้องเลย เพราะแม้ว่าจะได้ประตูนำโคตรไวจากตอร์เรสและโมเสสอีกเม็ด แต่เชลซีก็เล่นกันหลุดฟอร์มเสียง่ายก่อนโดนรูบิน คาซานรัวถึง 3 ลูก พ่ายไป 3-2 ยังดีนัดแรกตุนไว้เยอะจากสกอร์รวม 5-4 เลยผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศต่อไปได้
ยูโรป้า ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลกที่สอง
วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน 2556
รูบิน คาซาน 3 - 2 เชลซี
(เชลซีผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยสกอร์รวม 2 นัด 5-4)
สนาม ลุซนิกี้ สเตเดี๊ยม เปิดฉากเริ่มเกมมา "รูบิน คาซาน" บุกเร็วจนเกือบได้ซะแล้ว เพราะเล่นมาได้ 3 นาทีพวกพวกเขาก็มีโอกาสจากอีเรเม็งโก้ที่ได้ซัดในเขตโทษ วิถีบอลหลุดเช็กพร้อมเสียบตาข่ายอยู่แล้ว แต่กลายเป็นมีเทอร์รี่เข้ามาบล็อกเอาไว้ได้ซะก่อน
อีกเพียงแค่ 2 นาทีต่อมา รูบิน คาซานที่ตอนแรกดูท่าทางคึกเหลือเกินก็มาช็อกตาตั้ง เพราะบุกอยู่ดีๆก้มาเจอลูกเปิดไกลของแลมพาร์ดสวนโด่งไปข้างหน้าให้ตอร์เรสควบเข้าหาบอล ก่อนจะกระดกสวนผู้รักษาประตูที่พยายามจะวิ่งออกมาบล็อกนอกเขตข้ามแล้วเด้งเข้าประตูไปอย่างเนียน เชลซีนำ 1-0 แต่สกอร์รวมทิ้งยาว 4-1
โดนประตูแรกซะเร็วแบบนี้บอกได้เลยว่าใจที่คึกคักมันหดลงอย่างแน่นอนสำหรับนักเตะเจ้าบ้าน ที่แม้ว่าจะพยายามปั้นเกมขึ้นมาฮึดสู้แค่ไหน แต่ก้เหมือนมวยเมาหมัด บุกยิงเปะปะหวังอะไรไม่ค่อยได้
เกมนี้บอกเลยว่าเรื่อยๆจริงๆ เพราะเชลซีไม่ต้องกังวลอะไรมาก สกอร์ได้เปรียบอยู่เต็มขั้นและแถมแนวรุกของเจ้าบ้านก็ไม่ได้ทำให้ต้องกดดันสักเท่าไหร่ ทำให้กระแสของการเล่นมันทรงตัว ไม่มีใครบุกเทไปฝั่งไหนมากเป็นพิเศษ
นาทีที่ 34 นอกจากช่วงนาทีแรกๆที่ได้เทอร์รี่สกัดออกมาจากหน้าปากประตู เล่นมาตั้งนานนี่น่าจะเป็นจังหวะเรียกเสียงฮือฮาจากแฟนบอลได้มากที่สุดของเจ้าบ้าน ด้วยการที่คาซาเยฟพาบอลแตะเข้าไปในเขตโทษ ก่อนที่จะตอกส้นกลับมาให้อีเรเม็งโก้เติมขึ้นมายิงแบบเฉือนๆ แต่บอลไม่หนีวิถีของเช็กที่ล้มตัวรับเอาไว้แน่น
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เชลซีเกือบจะโดนตีเสมออยู่แล้วเชียวกับจังหวะที่รูบิน คาซานหนุนบอลเข้าไปในเขตโทษแล้วมีตัวสอดขึ้นไปก่อนยิงป้ายมุมแคบก่ะหวังให้เสียบเสาไกล แต่เช็กสุดยอดดีดตัวปัดปลายมือเอาไว้ได้ทันเวลา
จบ 45 นาทีแรกลงไปพร้อมกับการที่เชลซีออกนำเร็วตั้งแต่ช่วงต้นเกม สกอร์ 1-0 ดูหน้ารวมไปครึ่งทาง บอกได้เลยว่าถ้ารูบิน คาซานยังเล่นได้แค่นี้ก็เลิกหวังเรื่องเข้ารอบไปได้เลย
ลงสนามมาเล่นกันต่อในช่วงครึ่งหลังได้ 5 นาที ความคึกของรูบิน คาซานในที่สุดก็ได้่ผลสักที เมื่อพวกเขาได้ลูกเตะมุมก่อนที่มาร์คาโน่จะเติมขึ้นไปโฉบโขกได้ก่อนที่กองหลังของเชลซีจะทำอะไรได้ทัน บอลเสียบเสาๆไปเลย เจ้าบ้านตีเสมอสำเร็จ 1-1
โคตรช็อกเลยสำหรับเจ้าบ้านเพราะเพิ่งเฮได้แปบๆ ในนาทีที่ 55 พวกเขาก็ต้องมาโดนขึ้นนำไปอีกรอบ เมื่อเชลซีลุยไปถึงหน้าเขตโทษ แล้วแลมพาร์ดบรรจงไหลต่อให้กับโมเสสที่เติมขึ้นมาแตะพรวดเข้าช่องระหว่างกองหลัง ก่อนที่จะเอี้ยวตัวปั่นบอลไปเสาสอง พุ่งโค้งอ้อมมือผู้รักษาประตูสวยไปเลย เชลซีนำอีกรอบ 2-1 คราวนี้สกอร์รวมเพิ่มเป็น 5-2 เลิกคิดเรื่องต่อเวลามีผู้แพ้ผู้ชนะชัวร์อยู่แล้ว
นาทีที่ 61 อะไรจะยิงติดๆกันขนาดนี้ โดยเฉพาะกับแนวรับของเชลซีที่มาเสียอีกหนึ่งประตูจากลูกเปิดจากด้านข้างที่ดยนโด่งเข้ามา ไม่มีกองหลังคนไหนเข้าถึงบอล ก่อนจะเป็นคาราเดนิซที่พุ่งมาโขกเน้นๆคนเดียวส่งบอลเข้าประตูไป งานนี้เช็กวัยรุ่นเซ็งสุดๆเพราะเพื่อนปล่อยมาง่ายเหลือเกิน เกมเสมอกัน 2-2 แต่โมเมนตั้มหันไปทางเจ้าบ้านนิดๆ
เล่นไปเล่นมารวนเอาการเหมือนกันสำหรับเชลซีโดยเฉพาะในแนวรับที่โดนลูกโยนทีไรอาการเป๋ออกให้เห็นทันที จริงๆแล้วพวกเขาเกือบโดนอีกลูกแบบติดต่อกัน แต่โชคดีที่ลูกโขกของมาคาร์โน่นั้นเฉี่ยวเสาไกลออกไป
นาทีที่ 75 รูบิน คาซานแม้ว่าความหวังจะน้อยแต่ก็ยังตั้งหน้าลุ้นต่อไปจนกระทั่งพวกเขามาได้จุดโทษจากจังหวะที่อัซปิลิกวยต้าไปทำฟาวล์ซึ่งต้องบอกว่าล้มง่ายไปหน่อย ก่อนที่นาตโช่จะรับหน้าที่สังหารอัดบอลไปคนละทางกับที่เช็กทิ้งตัว ตอนนี้ในเกมพลิกขึ้นนำ 3-2 แต่สกอร์รวมยังตามอยู่ 4-5 ต้องซัดอีก 2 เม็ด
ตอนนี้จะนอนใจไม่ได้แล้ว เชลซีเลยจำต้องให้ออสการ์ที่เป็นตัวหลักในซีซั่นนี้ลงเล่นแทนเบนายูนซึ่งช่วงหลังนี่หายไปจากเกมเลย ก็ต้องดูว่าพวกเขาจะทำได้ดีขึ้นมากน้อยเพียงใด
นาทีที่ 81 นึกว่าจะทำให้เชลซีต้องอกสั่นซะแล้ว สำหรับอีกหนึ่งลูกเปิดจากด้านข้างของรูบิน คาซาน คราวนี้เป็นรอนดอนได้เทคตัวขึ้นโหม่ง แต่ไม่แรงพอ แถมยังเข้ามือของเช็กไปซะด้วย
ช่วงท้ายเกมก็ได้ยื้อกันอยู่สักหน่อย แต่จังหวะเสียวไม่ได้มีเพิ่มเติมขึ้นมาแต่อย่างใด ทำให้จบ 90 นาทีเชลซีแม้ว่าจะแพ้ไปด้วยสกอร์ 3-2 แต่พวกเขาก็ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ยูโรป้า ลีกไปด้วยผลรวม 2 นัด 5-4