เวสต์บรอมวิช - สวอนซี (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 01 กันยายน 2556
เวลา : 19:30 น.
ถ่ายทอดสด : CTH STADIUM 4
เปรียบเทียบความพร้อมของทีม เวสต์บรอมวิช : ฝั่งของเจ้าบ้าน "เดอะ แบ็กกี้ส์" นำทัพโดยกุนซือ "สตีฟ คล้าร์ก" ไล่ล่าชัยชนะนัดแรกในพรีเมียร์ลีก หลังจากที่เพิ่งเปิดบ้านยำนิวพอร์ท 3-0 ในแคปปิตอล วัน คัพ เมื่อกลางสัปดาห์
มีข่าวดีเมื่อ นิโกล่าส์ อเนลก้า กองหน้าชาวฝรั่งเศส พร้อมเป็นตัวเลือกอีกครั้ง หลังหายหน้าไปสองเกม ด้วยเหตุผลส่วนตัว จากการที่เอเย่นต์ส่วนตัวชื่อ เอริก มานาสเซ่ เสียชีวิตไป
แต่มือกาว เบน ฟอสเตอร์ (ข้อเท้า) และมิดฟิลด์ โซลตาน เกร่า (หัวเข่า) พักยาว ขณะที่ จอร์จ ธอร์น (หัวเข่า) และ มาเตจ วีดร้า (เอ็นหลังหัวเข่า) มีปัญหาเจ็บ ไม่พร้อมลงสนาม
สตีเว่น รีด (ช้ำ) เป็นอีกคนที่ไม่พร้อมลงสนาม แต่ บิลลี่ โจนส์ กับ เคลาดิโอ ยาค็อบ น่าจะเรียกความฟิตกลับมาลุยได้ หลังจากที่ต่างเพิ่งผ่านเกมกับนิวพอร์ท
สวอนซี : ทีมเยือน "หงส์ขาว" สวอนซี ซิตี้ ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มยูโรปา ลีก แม้ออกไปโดน "เปโตรลุล" เชือด 2-1 เมื่อวันพฤหัสบดี อย่างไรก็ตาม เด็กๆ ของ ไมเคิ่ล เลาดรู๊ป ยังต้องลุ้นชัยชนะนัดแรกในพรีเมียร์ลีก
สำหรับการเยือน เดอะ ฮอว์ธอร์นส์ วันอาทิตย์นี้ เชื่อว่ากุนซือเดนส์ เลาดรู๊ปจะเรียกสามตัวหลักอย่าง จอนโจ เชลวี่ย์, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ และ วิลฟรีด โบนี่ คืนทัพอีกครั้ง หลังจากที่ได้พักในถ้วยยุโรป เพราะมีปัญหาเจ็บเล็กน้อย
ขณะที่ปีก เนธาน ดายเออร์ (เอ็นหลังหัวเข่า) และ นีล เทย์เลอร์ (ต้นขา) จะยังไม่ได้มีเอี่ยวในเกมวันอาทิตย์นี้ เพราะต้องพักอีกอย่างน้อยสองสัปดาห์
เลาดรู๊ปพร้อมจัดทัพชุดเก่งลงสนาม เพื่อล่าสามแต้ม แนวรุกมี มิชู ดาวซัลโวตัวเก่งปักหลัก พร้อมกับที่ ปาโบล เอร์นานเดซ, เชลวี่ย์ และ เวย์น เราท์เล็ดจ์ คอยป้อนให้
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เวสต์บรอมวิช : (4-2-3-1) : ลุค แดเนี่ยลส์ - บิลลี่ โจนส์, แกเร็ธ แม็คออลี่ย์, โยนาส โอลส์สัน, เลียม ริดจ์เวลล์ - ยุสซุฟ มูลุมบู, เคลดิโอ ยาค็อบ - เกรแฮม ดอร์แรนส์, เจมส์ มอร์ริสัน, สกอตต์ ซินแคลร์ - นิโกล่าส์ อเนลก้า
สวอนซี : (4-2-3-1) : มิเชล ฟอร์ม - อังเคล รานเคล, ชิโก้ ฟลอเรส, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์, เบน เดวิส - โจนาธาน เด กุซมัน, ลีออน บริตตัน - เวย์น เราท์เล็ดจ์, จอนโจ เชลวี่ย์, ปาโบล เอร์นานเดซ - มิชู
วิจารณ์เกมการแข่งขัน
"หงส์ขาว" แพ้มา 4 นัดหลังสุดในลีก แต่อย่างไรก็ตามทีมเจ้าบ้านนั้นก็ไม่ได้ดีกว่ากันเท่าไหร่นัก เมื่อไร้ชัยใน 6 เกมหลังในพรีเมียร์ลีก ดูแล้วเกมนี้คงสู้กันสูสีแน่ อยู่ที่ว่าใครจะจบสกอร์ได้เฉียบกว่า การขาดหายไปของ "ฟอสเตอร์" น่าจะมีผลเหมือนกันสำหรับเกมรับของทาง "มวยโลก" ที่ต้องเจอพลังรุกของ "หงส์ขาว" ที่มีทั้ง "มิชู" และ "โบนี่" ซึ่งอาจสร้างความแตกต่างให้ "หงส์ขาว" เฉือนชนะไปได้แบบหืดจับ