เรียกว่าขับเคี่ยวกันอย่างเมามันส์เลยทีเดียวครับสำหรับทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล และทีมปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ที่ผลัดกันขึ้นนำเป็นจ่าฝูง โดยช่วงต้นฤดูกาลเป็นทางด้านหงส์แดงที่ทำผลงานได้ดีนำเป็นจ่าฝูง แต่พอหลังผ่าน 4-5 นัดไปแล้วเป็นอาร์เซน่อลที่ติดเครื่องแซง แล้วหงส์แดงนั้นแผ่วๆลงไปบ้าง แต่กระนั้น ณ ล่าสุดที่ผ่าน 7 นัดของฤดูกาลเข้าไปแล้วเป็นทีมหงส์แดงที่บี้เก็บแต้มไล่จี้มาเท่ากับปืนใหญ่แล้ว แถมผลต่างประตูเสียก็เท่ากันเสียด้วย เพียงแต่อาร์เซน่อลมีประตูยิงเยอะกว่าจึงนำจ่าฝูงต่อไป หงส์แดงก็เป็นรองจ่าฝูง
ฉะนั้นแน่นอนว่าในเกมถัดไปสำคัญมาก ถึงจะชนะด้วยกันทั้งคู่แต่ทีมหงส์แดงก็สามารถพลิกแซงนำเป็นจ่าฝูงได้หากว่าผลต่างประตูที่ชนะนั้นมากกว่า เช่น อาร์เซน่อลชนะคู่แข่ง 1-0 หงส์แดงชนะ 2-0 แบบนี้หงส์แดงจะขึ้นนำเป็นจ่าฝูงแทนอาร์เซน่อลทันที และถ้าคิดเผื่อไปอีกสักสองแมท ก็ถือยิ่งน่าสนุกเข้าไปใหญ่เพราะจะเป็นการโคจรมาพบกันเองระหว่างทั้งคู่ (ลิเวอร์พูล – อาร์เซน่อล) ถึงตอนนั้นอาจจะเป็นการตัดสินความได้เป็นของการลุ้นแชมป์เลยก็เป็นได้ว่าทีมไหนน่าจะได้ลุ้นมากกว่ากัน แต่ว่ากันในส่วนของขุมกำลังความได้เปรียบในการลุ้นแชมป์ระยะยาวตลอดฤดูกาลของทั้งสองทีม ณ ตอนนี้ที่ยังไม่มีการเสริมทัพนักเตะในช่วงเดือนมกราคม ผมว่าทีมหงส์แดงดูดีมีภาษีกว่า
เพราะแม้ว่าอาร์เซน่อลจะมีนักเตะอย่างโอซิล แรมซี่ย์ ที่เป็นคีย์แมนสำคัญในเกมรุก แต่ทว่ากองหน้าที่จบสกอร์ได้ดีๆนั้นยังเทียบไม่ได้กับหลุยส์ ซัวเรซ และสเตอร์ริดจ์ของลิเวอร์พูล คือสองรายนี้อยู่ในสนามก็ได้ลุ้นตลอดว่าเขาจะจบสกอร์ให้ทีมได้ และพาทีมจบการแข่งขันในแมทนั้นๆด้วยผลการแข่งขันที่ดีสำหรับทีม แต่จะน่าห่วงก็คือกองหลังครับ คือพักหลังๆลิเวอร์พูลเสียประตูบ่อย ทั้งที่ผู้รักษาประตูอย่างมิโญเล่ต์นั้นก็เหนียหนึบ นี่จึงถือเป็นจุดที่ร็อดจเจอร์สต้องแก้ครับหากอยากให้ทีมหงส์แดงนั้นได้เปรียบทีมอื่นๆในการลุ้นแชมป์