แม้ว่าลูกทีมสิงห์บูลของโจเซ่ มูริญโญ่จะเก็บชัยชนะในลีกนัดล่าสุดและแซงทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูลขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูงได้ แต่ทว่าตัวกุนซือ มูริญโญ่ นั้นกลับต้องโดนเรื่องที่ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ ทั้งในระหว่างเกมการแข่งขันรวมทั้งผลกระทบหลังเกมด้วย คือในช่วงเกมการแข่งขันครึ่งเวลาหลังนั้น โจเซ่ มูริญโญ่ โวยวายอย่างหนักอยู่ข้างสนามด้วยตนเห็นว่าทีมคาร์ดิฟฟ์ทำการถ่วงเวลา ประมาณว่าอยากที่จะปิดเกมกับเชลซีด้วยผลเสมอ 1-1 ณ ขณะนั้น กุนซือจอมเครียดก็เลยถูกลงโทษจากผู้ตัดสินโดยการไล่ขึ้นไปชมเกมบนอัฒจันทร์ในเวลาที่เหลือ
ส่วนผลกระทับหลังเกมก็คือโดนเอฟเอ หรือสมาคมฟุตบอลอังกฤษตั้งข้อหาแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ซึ่งถ้ากุนซือจอมเครียดยอมรับข้อหาก็อาจจะโดนสั่งปรับเงินเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามเขายังสามารถที่จะยื่นอุทธรณ์ข้อหานี้ได้อยู่ แต่คิดว่าไม่น่าจะยื่นเพื่อให้เรื่องมันยืดยาวไปกว่านี้ น่าจะรับและก็โดนปรับให้เรื่องเสร็จสิ้นโดนเร็วจะได้ไม่รบกวนสมาธิกับเกมการแข่งขันต่อๆไปของเชลซี ทั้งนี้โจเซ่ มูริญโญ่ ถือเป็นกุนซือที่โดดเด่นขึ้นชื่อในเรื่องของบุคลิกที่ชัดเจนของเขาเองทั้งในและนอกสนามมานานแล้ว เรียกว่าตั้งแต่สมัยคุมปอร์โต้นู้นแหละ การที่เขาโวยวาย หรือบ่นข้างสนาม หรือกระทั่งการออกมาวิพากษ์ วิจารณ์การทำงานของผู้ตัดสิน ฯลฯ แบบแรงๆ ตรงไปตรมาจึงเป็นเรื่องที่คอบอลคุ้นเคยเป็นอย่างดี
แต่กระนั้นในเรื่องของฝีไม้ลายมือการทำทีมของเจ้าตัวก็ต่างได้รับการยอมรับว่าเป็นสุดยอดกุนซือคนนึงของโลกเวลานี้ คืออาจจะเป็นกุนซือที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นสำหรับแฟนๆเชลซีก็คงสบายใจได้ในระดับนึงว่าการที่มูริญโญ่โดนตั้งข้อหาจากเอฟเอนี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไรกับผลงานของเชลซีสักเท่าไหร่ บางทีอาจจะเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ เพราะกุนซือระดับมูริญโญ่มักมองข้อผิดพลาดของตนเองและนำไปปรับปรุงแก้ไขอยู่เสมอครับ