เรียกว่ายกย่องทีมคู่แข่งอย่างปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ดเป็นพิเศษเลยครับ ในส่วนของ “โจเซ่ มูริญโญ่” ผู้จัดการทีมสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ทีมรองจ่าฝูงแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยล่าสุดแม้ว่าทีมปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ดจะพลาดท่าพ่ายเป็นนัดที่ 4 ของฤดูกาลเข้าไปแล้ว แถมยังมีโดนทีมจ่าฝูงอาร์เซน่อลทิ้งห่างมากถึง 12 คะแนน แต่มูริญโญ่ก็ยังแสดงความมั่นใจว่าทีมแมนฯยูไนเต็ดนั้นยังเป็นทีมที่จะกลับมามีลุ้นแชมป์ได้เสมอ โดยชี้ว่าถึงในทางปฏิบัติอาจจะเป็นไปได้ยากมากที่ทีมซึ่งตามหลังจ่าฝูงห่างถึง 12 แต้มในขณะที่ผ่านเกมการแข่งขันไปแล้ว 14 นัด
แต่ด้วยความเป็นตัวตนของทีมแมนฯยูไนเต็ด (ซึ่งในที่ผ่านมาเคยกลับมาคว้าแชมป์แล้วหลายครั้งแม้จะเริ่มต้นฤดูกาลอย่างลำบาก) ล้วนทำให้อะไรๆก็เกิดขึ้นได้เสมอ สรุปเป็นภาษาฟุตบอลง่ายก็คือมูริญโญ่ต้องการบอกว่าเวลานี้ทีมลุ้นแชมป์ทุกทีมไม่ยังไม่อาจประมาทแมนฯยูไนเต็ดได้ สำหรับการพ่ายแพ้ของแมนฯยูไนเต็ดในนัดล่าสุดนี้ สิ่งที่ถือเป็นไฮไลท์นอกเหนือจากการแพ้เป็นนัดที่ 4 ของฤดูกาล พร้อมกับทำให้พวกเขาห่างไกลการลุ้นป้องกันแชมป์มากขึ้นแล้ว ก็คือคู่แข่งที่แมนฯยูไนเต็ดพ่ายนั้นเป็นทีมทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ซึ่งเป็นทีมเก่าของผู้จัดการทีมแมนฯยูไนต็ด “เดวิด มอยส์” บางกระแสจากแฟนบอลจึงเกิดเป็นการเปรียบเทียบผลงานกันขึ้นมา
และแน่นอนสิ่งที่ได้รับทราบเป็นข้อเท็จจริงก็คือ เดวิด มอยส์ทำผลงานได้เป็นรองทีมเก่าอย่างเอฟเวอร์ตัน ทั้งที่ตัวผู้เล่นก็มีคุณภาพดีกว่า ทีมขนาดใหญ่กว่า ไม่ว่าจะผลงานในนัดที่พบกันเองนี้ หรือว่าผลงานโดยรวมจากตารางคะแนน เอฟเวอร์ตันก็ผลงานดีกว่าชัดเจน ครั้นจะอ้างว่าเดวิด มอยส์เพิ่งย้ายมาเริ่มต้นกับแมนฯยูไนเต็ดต้องใช้เวลาในการปรับทีมหน่อย สิ่งที่เอฟเวอร์ตันต้องเผชิญก็เช่นเดียวกัน เอฟเวอร์ตันต้องเริ่มต้นฤดูกาลใหม่กับผู้จัดการทีมคนใหม่ “โรแบร์โต้ มาติเนซ” ฉะนั้นสิ่งที่น่าคิดย้ำอีกครั้งในตอนนี้สำหรับทีมแมนฯยูไนเต็ดก็คือ เดวิด มอยส์คือคนที่ใช่จริงๆหรือ?
