"เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ต้องจบสถิติชนะรวด 10 เกมในแชมเปี้ยนส์ ลีกเพราะฝีมือของ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่พลิกเกมนรกตามหลังสองลูกมายิง 3 ประตูรวดคว้าชัย 3-2 แต่ไม่พอต่อการเป็นแชมป์กลุ่ม
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี
วันอังคารที่ 10 ธันวาคม 2556
บาเยิร์น มิวนิค 2-3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า เปิดฉากมาเพียงแค่ 5 นาทีเจ้าบ้านก็มาได้เฮกันแล้วโดยดันเต้โยนบอลยาวจากแดนหลังมาให้มุลเลอร์พักอกลงหนึ่งจังหวะแล้วลากบอลหนีโคลารอฟก่อนอัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบโคนเสาซ้ายมือไปแบบหมดจดชนิดที่ฮาร์ทไม่มีโอกาสเซฟเลย
บาเยิร์นมีโอกาสอีกครั้งในจังหวะฟรีคิกด้านขวาของสนามที่เปิดบอลมาทางเสาแรกให้ดันเต้ขึ้นโขกสะบัดบอลตรงกรอบแต่ยังไม่พ้นมือของฮาร์ทที่ล้มตัวเซฟเอาไว้
"เรือใบสีฟ้า"ท่าจะแย่แล้วมาเสียอีกประตูในจังหวะเตะมุมด้านขวามานด์ซูคิชจับบอลได้หน้าปากประตูก่อนพยายามยิงบอลไปโดนบล็อคทว่าไม่พ้นอันตรายเกิทเซ่จับได้ในกรอบ 6 หลาก่อนแปง่ายๆเข้าไปไม่เหลือซากในนาทีที่ 12
เกมยังเป็นของบาเยิร์นแบบหมดจดโดย"เรือใบสีฟ้า"แทบไม่ได้ทำอะไรเลยและในจังหวะนี้โครสพยายามส่องไกลจากระยะ 25 หลาแต่ฮาร์ทยังล้มตัวรับบอลเข้าซองไม่มีอะไรต้องลุ้น
แต่แล้วซิตี้ก็ได้ประตูคืนจนได้ในจังหวะเติมเกมขึ้นมาด้านขวาของนาบาสที่โยนลึกไปทางเสาสองบัวเต็งไม่ยอมโขกทิ้งบอลเลยไปถึงเชโก้โหม่งตั้งเข้ามาตรงกลางที่มีซิลบาไวทายาทวิ่งเข้ามาจิ้มบอลเข้าไปตุงตาข่าย
เกมมาถึงช่วงท้ายบาเยิร์นยังเป็นฝ่ายครองบอลเข้าใส่ส่วน"เรือใบสีฟ้า"ก็ตั้งเกมได้ดีขึ้นม่จังหวะตัดบอลพยายามสวนกลับอยู่หลายหนทว่าน้ำยาก็ยังไม่มีเท่าไหร่และในช่วงท้ายนี่เองดันเต้กับเชโก้มาได้ใบเหลืองไปคนละใบด้วย
โจ ฮาร์ทต้องออกแรงอีกแล้วในจังหวะที่ริเบรี่ตวัดจ่ายให้เกิทเซ่หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนจะยิงแบบจิ้มๆหวังให้ลอดดากของมือกาวทีมชาติอังกฤษที่พุ่งออกมาทิ้งตัวบล็อคบอลออกหลังไปได้หวุดหวิด
ต่อมาในช่วงครึ่งหลัง "ซิตี้" ขึ้นเกมมาได้สวยทางฝั่งซ้ายโดยมิลเลอร์ปาดบอลไปให้ซิลบาที่เติมขึ้นมาก่อนจ่ายไปทางเสาแรกให้เชโก้วิ่งเข้ามายิงทันทีในจังหวะแรกแต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือของนอยเออร์
แต่แล้วในนาทีที่ 59 บาเยิร์นมาเสียจุดโทษเฉยเลยในจังหวะที่ดันเต้ไปเสียบด้านหลังของมิลเนอร์จนล้มลงในกรอบเขตโทษด้านซ้ายกรรมการไม่ลังเลเป่าให้เป็นการฟาวล์ทันทีโดยโคลารอฟที่สวมปลอกแขนเป็นกัปตันรับหน้าที่สังหารวิ่งมาแปด้วยซ้ายไปทางซ้ายมือขณะที่นอยเออร์พุ่งไปผิดทางก่อนแล้ว
ถัดมาอีกแค่ 3 นาที"เรือใบสีฟ้า"มาได้ประตูขึ้นนำแบบไม่น่าเชื่อโดยซิลบาแทงบอลทะลุช่องไปให้นาบาสนอกกรอบเขตโทษด้านขวาบัวเต็งเตะบอลวืดเต็มๆทำให้บอลเลยมาถึงมิลเนอร์ที่เสาไกลวิ่งเข้าหวดเน้นๆบอลพุ่งกลับไปซุกเสาไกลอย่างสวยงาม
เกมล่วงเลยมาถึงนาทีที่ 70 "เสือใต้"ได้ครองบอลเป็นส่วนใหญ่ก็จริงแต่ยังไม่สามารถหาช่องเจาะเข้าไปทำประตูทีมเยือนได้เหมือนต้นครึ่งแรกเลยส่วน"เรือใบสีฟ้า"ก็เล่นดีขึ้นตามลำดับสามารถต่อบอลงามๆได้หลายครั้งเช่นกัน
"เสือใต้"เกือบมาพังพาบอีกแล้วในจังหวะที่ดันเต้ทำโฉ่งฉ่างเสียบอลไปให้เนเกรโด้ฉกบอลเข้าไปซัดยัดเสาแรกแต่นอยเออร์ยังเหนียบใช้ขาสกัดบอลก่อนตามมาคว้าอีกหนึ่งจังหวะทำให้เจ้าบ้านรอดพ้นการเสียประตูที่ 4 ไปแบบหวุดหวิด
บาเยิร์นพยายามเรียกร้องจะเอาจุดโทษบ้างในจังหวะที่ริเบรี่พยายามเลี้ยงบอลหลบกองหลังของซิตี้ 2 คนก่อนไปชนกับซาบาเลต้าจนล้มกลิ้งไปทว่ากรรมการใจแข็งปล่อยให้เล่นต่อไป
ท้ายที่สุด"เสือใต้"ก็มาจบสถิติชนะรวด 10 เกมแถมยังเป็นการพ่ายนัดแรกในบ้านนับตั้งแต่โดนอาร์เซน่อลส่องดับ 2-0 เมื่อซีซั่นก่อนแต่บุญเก่ายังดีผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มส่วน"เรือใบสีฟ้า"ตามไปด้วยตำแหน่งรองแชมป์โดยมี 15 แต้มเท่ากัน