แม้จะก้าวขึ้นมาเป็นทีมใหญ่ระดับท็อปๆของโลก แต่ว่าสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ทีมดังแห่งกรุงลอนดอนก็ยังคงมีผลประกอบการในเชิงธุรกิจที่ไม่ค่อยสู้ดี เมื่อล่าสุดมีการเปิดเผยออกมาว่าในช่วงปี 2013 สโมสรขาดทุนไปราวๆ 50 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 2500 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งหากให้เดาว่าเป็นเพราะอะไร ก็แน่นอนว่าน่าจะมาจากการซื้อตัวผู้เล่นนั่นแหละครับ ด้วยในช่วงปี 2013 ทีมสิงห์บลูยังคงชัดเจนกับการทุ่มเงินซื้อนักเตะเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง สร้างความสำเร็จให้ทีม
ส่วนนอกจากนี้ก็น่าจะมาจากการที่พวกเขาตกรอบฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรปในช่วงฤดูกาลที่แล้วเร็วไปหน่อย หลังจากฤดูกาลก่อนหน้านั้นคว้าแชมป์มาครองได้ รายได้จากการแข่งขันเลยหดไปพอสมควร แต่ถึงอย่างไรก็ตามแม้ว่าผลประกอบการปี 2013 ของทีมเชลซีดังกล่าวที่เปิดเผยออกมาจะขาดทุน แต่ด้านประธานสโมสร รวมถึงประธานฝ่ายบริหารก็ยังคงมั่นอก มั่นใจในแนวทางการบริหาร และแผนการพัฒนาสโมสร โดยชี้ว่าการที่ทีมสามารถคว้าแชมป์เพิ่มได้ในช่วงหลัง ถือเป็นสิ่งที่จะนำทีมไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว เช่นกันกับการที่เวลานี้ทีมมีนักเตะฝีเท้าดีอายุน้อยๆอยู่เต็มทีมก็จะทำให้ทีมสามารถได้กำไรคืนตลอดระยะเวลาหลายปีต่อจากนี้ กล่าวคือช่วงปี 2013 ที่ผลประกอบการขาดทุนนี้ ทีมเชลซีจะอธิบายว่ามันเป็นช่วงของการลงทุน หากแต่ผลกำไรจะตามมาหลังจากนี้ ส่วนเรื่องของกฎไฟแนซเชี่ยล แฟร์ เพลย์ของทางยูฟ่า หรือสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป
ซึ่งค่อนข้างจะเกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายเงิน รวมถึงผลกำไร ขาดทุนของสโมสรต่างๆในยุโรป ทางเชลซีก็ยืนยันว่าแนวทางการบริหารสโมสรของพวกเขาถูกต้อง สอดคล้องกันกับกฎดังกล่าวอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นกังวลแต่อย่างใด ทั้งนี้ในส่วนของสโมสรใหญ่อื่นๆในอังกฤษ แม้ว่าเวลานี้จะไม่ได้มีข้อมูลการเปิดเผยผลประกอบการออกมาให้ได้รับทราบกันชัดเจนอย่างสโมสรเชลซี แต่ก็คาดกันว่าน่าจะประสบกับภาวะขาดทุนเช่นเดียวกัน และบางทีอาจมากกว่าตัวเลข 50 ล้านปอนด์นี้ด้วยซ้ำ โดยเฉพาะกับทีมที่ต้องใช้วิธีกู้เงินเพื่อซื้อนักเตะเข้ามาเสริมทีม