"โคโล่ ตูเร่" จบเกมนี้ไปพร้อมตราบาปติดตัวไปจนวันตายหลังจากที่ทำช็อกแฟนบอลจ่ายให้ "วิคเตอร์ อานิเชบี้" ซัลโวแบบโล่งๆกลายเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ของ "มวยโลก" เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ส่งผลทำให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ชวดไล่กลุ่มนำและหนีอันดับ 4 อย่างน่าเสียดาย
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557
เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-1 ลิเวอร์พูล
สนาม เดอะ ฮอว์ธอร์นส์ เปิดฉากเริ่มเกมมาในช่วงครึ่งแรกโอกาสลุ้นประตูครั้งแรกเป็นของ "หงส์แดง" ในนาทีที่ 7 เมื่อซัวเรซโดนทำฟาวล์หน้ากรอบเขตโทษระยะ 25 หลา"หม่อมกัด"ลุกขึ้นมายิงเองบอลไปติดกำแพงก่อนออกหลังไปเจอร์ราร์ดตามไปเตะมุมก็เลยไปเสาสองไม่ได้ลุ้นเลย
เกมผ่านไป 15 นาทีแล้วทั้งสองทีมยังสู้กันตรงแดนกลางไม่มีโอกาสมากมายเท่าไรและเป็นเคลาดิโอ ยาค็อบได้รับใบเหลืองคนแรกของเกมเมื่อไปเตะเจอร์ราร์ดกลางสนามทำให้เขาสะสมใบเหลืองครบ 5 ใบจะไม่ได้ลงเล่นในเกมหน้า
เวสต์บรอมได้เตะมุมด้านขวาก่อนเปิดเข้ากลางแล้วบอลทะลักมาถึงมูลุมบูที่ตวัดยิงเร็วจากระยะรวา 18 หลาหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลไปติดเท้าของเจอร์ราร์ดที่ลงมาช่วยเกมรับเตะทิ้งออกมาได้
ลิเวอร์พูลขึ้นนำจนได้ในนาทีที่ 24 เมื่อราฮีมได้บอลยึกยักอยู่ในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนไหลให้ซัวเรซล็อคบอลไปมาแล้วตักไปทางเสาไกลผ่านบรรดาแผงกองหลังของเวสต์บรอมก่อนที่สเตอร์ริดจ์ที่ยืนอยู่แนวเดียวกับโจนส์ปาดเข้ามาเอาขาแหย่เข้าไปตุงตาข่ายระยะแค่หลาเดียวเท่านั้นเป็นประตูที่ 14 ของเขาในพรีเมียร์ลีก
หลังจากนั้นอีก 2 นาที"หงส์แดง"มาได้ฟรีคิกระยะ 30 หลาเป็นซัวเรซอีกแล้วที่รับอาสายิงโดยปั่นบอลข้ามกำแพงไปแล้วแต่บอลกลับเลี้ยวออกเสาซ้ายมือนิดเดียวเท่านั้น
เวสต์บรอมรอดตัวไม่เสียลูกที่สองเมื่อเจอร์ราร์ดเปิดเตะมุมมาจากด้านซ้ายเข้าตรงกลางกองหลังเวสต์บรอมเคลียร์ไม่ดีบอลมาตกใส่แถวๆที่ตูเร่ยืนอยู่แต่ดาวเตะไอวอรี่โคสต์จิ้มไม่ถึงก่อนที่ฟอสเตอร์จะมารับบอลเอาไว้ได้ในตอนสุดท้าย
เกมเล่นมาถึงนาทีที่ 40 เป็นทาง"หงส์แดง"ที่ครองเกมอยู่หมัดและ"มวยโลก"ต้องมาเผชิญปัญหาสำคัญเพราะโอลส์สันกองหลังตัวแกร่งมีอาการเดี้ยงบริเวณแฮมสตริงทำให้ต้องส่งดีเอโก้ ลูกาโน่ลงมาบัญชาแนวรับแทน
นาทีที่ 42 "มวยโลก"น่าได้จริงๆในจังหวะที่เบราฮิโน่ได้บอลหน้าปากเขตโทษก่อนไหลไปให้เกร่าตั้งป้อมซัดจากระยะ 20 หลาด้วยเท้าขวาบอลผ่านมิโญเล่ต์ไปแล้วแต่ออกเสาซ้ายมือไปไม่ได้ลุ้นเลย
ลงสนามมาเจอกันในช่วงครึ่งหลังในนาทีที่ 50 "มวยโลก" มาได้ลุ้นก่อนในครึ่งหลังเมื่อเจอร์ราร์ดเสียท่าจนต้องทำฟาวล์ตรงกรอบเขตโทษด้านซ้ายบรันท์ตั้งท่าเหมือนจะเปิดเข้ามากลางประตูแต่ตัดสินใจขอยิงเองบอลเลยออกไปไกลท่ามกลางความผิดหวังของเจ้าตัว
เวสต์บรอมเดินหน้าบุกกระจายเลยและมาได้ลุ้นอีกโดยเป็นมูลุมบูที่เติมขึ้นมาทางกรอบขวาแล้วเปิดไปทางเสาไกลม่บรันท์ปราดเข้ามายิงไปติดฟลานาแกนและในจังหวะเตะมุมนี่เองเป็นแม็คออลี่ย์ที่ได้โขกเต็มหัวแต่มิโญเล่ต์โชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งจากเส้นได้แบบสุดเหลือเชื่อ
เกมผ่านมาเกือบครบชั่วโมง"หงส์แดง"นาได้อีกประตูจริงๆเมื่อ"หม่อมกัด"อาศัยความเก๋าแย่งบอลจากลูกาโน่ได้ก่อนเกี่ยวหนีแม็คออลี่ย์อย่างงามเข้าไปดวลเดี่ยวกับฟอสเตอร์แต่หัวหอกอุรุกวัยดันยิงไปติดเท้าของมือกาวทีมชาติอังกฤษนิดเดียว
นาทีที่ 65 เวสต์บรอมมีโอกาสงามอีกครั้งเมื่อตูเร่ไปทำฟาวล์อนิเชเบ้หน้าปากเขตโทษระยะน่ารักน่าลุ้นเป็นบรันท์คนเดิมความนี้เลือกยิงด้วยซ้ายเลียดไปทางเสาไกลแต่มิโญเลต์อ่านออกพุ่งไปรับติดมือไว้หนึบ
แต่แล้วในนาทีถัดมา"หงส์แดง"โดนลงโทษเลยเมื่อตูเร่จ่ายบอลขวางสนามพลาดไปเข้าทางตีนของอนิเชเบ้จับก่อนยิงทีเดียวเข้าไปตุงตาข่ายมิโญเลต์หมดสิทธิ์เซฟเป็นประตูแรกของอนิเชเบ้ที่ยิงลิเวอร์พูลได้ด้วย
ยังเป็นฝ่ายของ"มวยโลก"ที่บุกได้น้ำได้เนื้อมากกว่าและคราวนี้พวกเขาก็มีโอกาสยิงอีกครั้งจากมูลุมบูที่ซัดไกลนอกกรอบทว่าบอลเบาเลยไปเข้าซองของมิโญเล่ต์ที่ตั้งหลักรับเอาไว้ได้
"หงส์แดง"มีโอกาสบ้างเมื่อเจอร์ราร์ดเปิดฟรีคิกจากริมเส้นด้านขวาไปเลยไปทางเสาไกลสเคอร์เทลจับบอลได้แต่ไม่มีช่องยิงเลยตวัดกลับหลังมาให้อัลเลนจับก่อนสับไปติดมือของฟอสเตอร์หลังจากนั้นหริดก็ได้บอลทะลุช่องจากราฮีมเข้าไปยิงติดฟอสเตอร์ที่ออกมาเร็วอีกครั้ง
ช่วงท้ายเกม"หงส์แดง"พยายามเปิดเกมบุกแต่โอกาสยิงก็แทบไม่มีด้านเวสต์บรอมจะสวนก็ไม่อันตรายมากเท่าไหร่ก่อนจะแบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนนทำให้ลิเวอร์พูลพลาดโอกาสสลัดหนีเอฟเวอร์ตันอันดับ 5 และไล่จี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ไปอย่างน่าเสียดายก่อนกลับไปเจออาร์เซน่อลในแอนฟิลด์นัดต่อไป
