อาจเป็นงานหนักเกินไปสำหรับ "เดอะ กันเนอร์ส" ที่พยายามเต็มที่แล้วแต่ไม่สามารถพลิกชะตากลับมาผ่านเข้ารอบได้โดยพวกเขาทำได้ดีสุดเพียงไล่ตีเสมอ "พี่เสือ" บาเยิร์น มิวนิค 1-1 ส่งผลให้ร่วงตกรอบ 16 ทีมแชมเปี้ยนส์ ลีกด้วยสกอร์รวม 1-3 หมดลุ้นไปอีกหนึ่งรายการ
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีม นัด 2
วันอังคารที่ 11 มีนาคม 2557
บาเยิร์น มิวนิค 1-1 อาร์เซน่อล
(บาเยิร์นผ่านเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 3-1)
สนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า ออกสตาร์ทเกมช่วงครึ่งแรกมาได้เพียง 4 นาทีบาเยิร์นมีโอกาสยิงก่อนโดยเป็นมานด์ซูคิชที่โขกต่อมาให้ชไวน์สไตเกอร์ลองส่องจากระยะเกือบ 30 หลาบอลพุ่งแรงเข้ากลางประตูเข้าหามือของฟาเบียนสกี้ที่รับเอาไว้ไม่มีปัญหาอะไร
รูปเกมเป็นของบาเยิร์นที่ครองบอลได้เกือบทั้งหมดแต่โอกาสยิงไม่ค่อยมีเท่าไหร่จนล่วงเลยมาถึงนาทีที่ 17 ชไวน์สไตเกอร์ก็ได้ส่องนอกกรอบอีกครั้งแต่คราวนี้บรรดากองหลังของอาร์เซน่อลขยับเข้าชิดและบล็อคเอาไว้ได้
ผ่านไปอีก 2 นาทีบาเยิร์นโต้กลับจากจังหวะเตะมุมได้น่ากลัวอลาบารุกขึ้นมาทางกราบซ้ายก่อนไหลให้ริเบรี่หลุดไปจนสุดเส้นหลังแล้วครอสเข้ากลางบอลเลยมานด์ซูคิชไปที่เสาสองมีร็อบเบนวิ่งเข้ามาแปไม่เต็มเท่าไรทำให้บอลไม่ตรงกรอบ
นาทีที่ 26 เจ้าถิ่นเฮกันเก้อไปเลยในจังหวะที่แฟร์มาเล่นไปทำฟาวล์หน้าปากเขตโทษด้านขวาอลาบารับหน้าที่เปิดโดยหยอดมาตรงกลางประตูให้มาร์ติเนซวิ่งเข้ามาแปยัดแสกหน้าของฟาเบียนสกี้เข้าไปอย่างสวยแต่ไลน์แมนยกธงว่าเขาล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
อาร์เซน่อลได้ยิงบ้างเมื่อผ่านครึ่งชั่วโมงเป็นจังหวะฟรีคิกที่กาซอร์ล่าซัดไปติดกำแพงแล้วบอลปลิ้นเปลี่ยนทางออกหลังไปโดยในจังหวะเตะมุมนั้นชิรูด์สามารถชิงจังหวะโขกบอลได้แต่บอลก็ไม่ผ่านมือของนอยเออร์
บาเยิร์นทำเกมบุกหนังเลยและครางนี้พวกเขามีโอกาสทองเมื่อขึงพืดทำเกมบุกแล้วลาห์มหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนตบกลับมาให้ร็อบเบนวิ่งเข้ายิงแต่โดนกอสเชียลนี่เข้ามาขวางไว้ทำให้อดได้ประตูและจังหวะต่อมามานด์ซูคิชได้โขกคนเดียวแต่บอลมาโด่งเกินไปทำให้กดไม่ลองข้ามคานไปไม่เท่าไร
ก่อนหมดเวลานาทีเดียวฟาเบียนสกี้ต้องออกแรงเซฟเลยในจังหวะที่อลาบาโยนบอลมาจากทางกราบซ้ายโดนแฟร์มาเล่นโขกทิ้งมาได้แต่ไม่พ้นอันตรายมาเข้าตีนของเกิทเซ่ที่ซัดเร็วทันทีทำให้นายด่านโปลต้องเซฟไว้ทีแรกก่อนลุกมาคว้าเข้าซองในจังหวะต่อมา
ต่อมาในช่วงครึ่งหลังเล่นกันผ่านมา 5 นาทีแฟนบอลบาเยิร์นร้องโวยวายจะเอาจุดโทษในจังหวะที่ร็อบเบนเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนจะโดนกาซอร์ล่าเกี่ยวขานิดนึงแล้วพยายามจะเล่นต่อแต่ดันขาอ่อนล้มไปเองทำให้กรรมการไม่ยอมเป่าให้อาร์เซน่อลเลยรอดตัวไม่เสียจุดโทษ
และแล้วทำนบของอาร์เซน่อลก็แตกจนได้ในนาทีที่ 55 เป็นจังหวะที่ริเบรี่พาบอลฝ่าเข้ามาในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนจ่ายบอลช่องแคบอย่างแม่นยำให้ชไวน์สไตเกอร์ที่วิ่งมารออยู่แล้วจับบอลก่อนหนึ่งจังหวะแล้วยิงผ่านฟาเบียนสกี้ไปแบบใจเย็นทำให้สกอร์รวมตอนนี้เป็น 3-0 แล้ว
แต่ถัดมาเพียงไม่กี่วินาทีอาร์เซน่อลมาตามตีเสมอได้เร็วเมื่อโพดอลสกี้ไปแย่งบอลด้านหลังจากลาห์มมาได้ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายซึ่งดูเหมือนจะฟาวล์แต่เมื่อกรรมการไม่เป่าทำให้เขาลากเข้าไปล่อเป้าก่อนยิงมุมแคบใส่นอยเออร์เข้าไปตุงตาข่ายอย่างเด็ดขาด
ตอนนี้เป็นทั้งสองฝ่ายที่มีโอกาสยิงกันและอาร์เซน่อลมีลุ้นเมื่อกาซอร์ล่าพยายามจ่ายบอลในจังหวะโต้กลับบอลจะถึงชิรูด์ในกรอบเขตโทษอยู่แล้วแต่มาร์ติเนซยังไววิ่งมาจากด้านหลังก่อนหวดทิ้งออกหลังได้หวุดหวิด
บาเยิร์นน่าขึ้นนำอีกครั้งเหลือเกินในจังหวะที่พวกเขาต่อบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษเริ่มจากชไวนี่ตักบอลไปให้ติอาโก้ไม่ยอมยิงผ่านไปให้มานด์ซูคิชที่ยืนโล่งๆไม่ยิงจังหวะแรกไปพักเข่าก่อนที่ฟาเบียนสกี้จะออกมาคว้าไว้ทำให้โอกาสสับไกหายหมดเลย
นาทีที่ 75 "พี่เสือ"มีโอกาสอีกครั้งจากร็อบเบนคนเดิมที่พยายามเลี้ยงตัดจากริมเส้นด้านขวาผ่านกองหลังอาร์เซน่อลมา 3-4 คนก่อนจะยิงหักข้อไปทางเสาแรกแต่ฟาเบียนสกี้ไม่หลงพุ่งมาคว้าบอลติดมือ
เกมเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายแล้วบาเยิร์นเน้นครองบอลเอาชัวร์ไม่บุกเท่าไหร่ส่วนอาร์เซน่อลก็ต้องวิ่งไล่หน้าตั้งแต่บอลก็ไม่มาเข้าทางแถมยังเจาะผ่านแนวรับเจ้าถิ่นก็ลำบากลำบนเหลือเกินจริงๆ
แต่แล้วเมื่อถึงช่วงต่อเวลาพิเศษกอสเชียลนี่ไปเข่าด้านหลังร็อบเบนร่วงไปในกรอบทำให้มุลเลอร์รับหน้าที่สังหารบอลไปติดเท้าของฟาเบียนสกี้ที่หลงทางไปแล้วก่อนบอลจะไปหยุดตรงเส้นประตูพอดีแล้วนายทวารโปลวิ่งมาปัดทิ้งได้ก่อนกรรมการเป่าฟาวล์
เมื่อจบเกมไม่มีการยิงเพิ่มกันได้ทำให้บาเยิร์นผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 3-1 ส่วน"ปืนใหญ่"หมดลุ้นไปอีกหนึ่งรายการเหลือเพียงพรีเมียร์ลีกและเอฟเอ คัพให้วาดหวังว่าจะจบสถิติเลวร้ายไร้แชมป์ตั้งแต่ปี 2005 ได้ในฤดูกาลนี้
