เชลซี - แอต.มาดริด (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)
วันที่ : 30 เมษายน 2557
เวลา : 01:45 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1 (681),ช่อง3
เปรียบเทียบความพร้อมของทีม เชลซี : "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี กุมความได้เปรียบเล็กน้อยในกำมือหลังจากนัดแรกเก็บผลเสมอ 0-0 มาจากถิ่นบิเซนเต้ กัลเดร่อน ก่อนจัดทีมชุดผสมบุกเชือดลิเวอร์พูล 2-0 ต่อลมหายใจลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในช่วง 2 นัดโค้งสุดท้าย อย่างไรก็ตาม โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือโปรตุกีสมีปัญหาในแดนกลางที่ไม่มี แฟร้งค์ แลมพาร์ด, จอห์น โอบี มิเคล โดนแบน ตลอดจน เนมานย่า มาติช กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ติดคัพไท
ทว่าข่าวดีคือพวกที่เจ็บอยู่อย่าง ปีเตอร์ เช็ก นายทวารมือหนึ่ง (ไหล่) จอห์น เทอร์รี่ กองหลังกัปตันทีม (ข้อเท้า) และ ซามูเอล เอโต้ ดาวยิงแคเมอรูน (หัวเข่า) ต่างกลับมาซ้อมได้ทั้งหมด หากแต่ 2 รายแรกคงเร็วเกินไปที่จะคืนสนามทันที ขณะเดียวกัน เอแด็น อาซาร์ ปีกทีมชาติเบลเยียม เจ้าของรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมพีเอฟเอฤดูกาลล่าสุด ก็หายเจ็บน่องกลับมาซ้อมเต็มรูปแบบ พร้อมลงทำเกมรุกร่วมกับ วิลเลี่ยน ผู้ยิงปิดกล่องในบิ๊กแมตช์ที่แอนฟิลด์ และ ออสการ์ จอมทัพแซมบ้าซึ่งได้พักมาเต็มๆ ส่วนหน้าเป้าเป็นโอกาสของ เฟร์นานโด ตอร์เรส ได้เจอทีมเก่าอีกนัด สวนทาง เดมบา บา ฮีโร่ซัดเบิกร่องใส่ลิเวอร์พูลเมื่อวันอาทิตย์
กลางสนามได้ รามิเรส พ้นโทษพักแข้งยาวในลีกกลับมาคุมเกมคู่ ดาวิด ลุยซ์ ส่วนแนวรับโยก เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เล่นแบ็กขวาเพื่อหุบเอา บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ที่นัดแรกโดนโทษกักเข้ามาเล่นเซนเตอร์แบ็กคู่ แกรี่ เคฮิลล์ ฝั่งซ้ายเป็นโอกาสของจอมเก๋า แอชลี่ย์ โคล พื้นที่เฝ้าเสาเมื่อไม่มี เช็ก ก็ต้องใช้บริการ มาร์ค ชวาร์เซอร์ เสือเฒ่าออสซี่วัย 41 ต่อไป
แอต.มาดริด : ทีม "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด มีโอกาสเปิดกว้างไม่แพ้กันเพราะขอแค่เสมอมีสกอร์ก็จะเข้ารอบตามกฎประตูทีมเยือน ส่วนสถานการณ์ในลีกยังคงกุมความได้เปรียบหลังบุกเฉือนบาเลนเซีย 1-0 จากประตูโทนของ ราอูล การ์เซีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นำจ่าฝูงเหนือบาร์เซโลน่า 4 แต้ม และ เรอัล มาดริด ที่แข่งน้อยกว่า 1 นัดอยู่ 6 แต้มขณะเหลือเกมแข่ง 3 นัดสุดท้าย
สภาพทีมล่าสุด ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ นายใหญ่คนเก่งชาวอาร์เจนไตน์ ต้องปรับแดนกลางไม่มี กาบี เฟร์นานเดซ กัปตันทีมที่สะสมใบเหลืองครบโควตาพักแข้ง เปิดโอกาส มาริโอ ซูอาเรซ เสียบตำแหน่งแทนคุมเกมคู่กับ ติอาโก้ เมนเดส นอกนั้นจัดว่าฟูลทีมเตรียมส่งชุดที่ดีที่สุด แนวรุกพร้อมส่ง อาร์ดา ตูราน ที่หายเจ็บกลับมาลงสำรองได้พักใหญ่ ลงประสานงาน โกเก้ ดาวรุ่งพุ่งแรง และ ราอูล การ์เซีย คอยสนับสนุนหน้าเป้า ดีเอโก้ คอสต้า
ส่วนในราย ดาบิด บีย่า ที่เป็นตัวจริงในลีกนัดล่าสุดต้องนั่งสำรองไปก่อนเช่นเดียวกับ อาเดรียน โลเปซ, โฮเซ่ โซซ่า หรือ ดีเอโก้ ริบาส ในแนวรับไม่มีปัญหาเช่นกันพร้อมจัดชุดเก่ง ชูเอา มิรันด้า เล่นเซนเตอร์แบ็กคู่ ดีเอโก้ โกดิน ขนาบข้างด้วย ฆวนฟราน ตอร์เรส ที่โดนใบแดงในลีกแต่โทษแบนไม่เกี่ยวกัน และ ฟิลิเป้ หลุยส์ นายทวารยังคงเป็น ติโบต์ กูร์กตัวส์ ที่ยืมมาจากเชลซี
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี : (4-2-3-1) : มาร์ค ชวาร์เซอร์ - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, แอชลี่ย์ โคล - รามิเรส, ดาวิด ลุยซ์ - วิลเลี่ยน, ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ - เฟร์นานโด ตอร์เรส
แอต.มาดริด : (4-2-3-1) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - ฆวนฟราน ตอร์เรส, ชูเอา มิรันด้า, ดีเอโก้ โกดิน, ฟิลิเป้ หลุยส์ - มาริโอ ซูอาเรซ, ติอาโก้ เมนเดส - โกเก้, ราอูล การ์เซีย, อาร์ดา ตูราน - ดีเอโก้ คอสต้า
วิจารณ์เกมการแข่งขัน
ถือว่าเกมนี้เป็นเกมที่กดดันสำหรับทั้งคู่เลยทีเดียว หลังจากที่เจ๊าโนสกอร์ในยกแรก "สิงห์บลูส์" ดูเหมือนจะได้เปรียบเพราะเล่นในบ้านแต่ก็ประมาทไม่ได้ เพราะผลเสมอมีประตูก็เพียงพอให้ "ตราหมี" พลิกเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ แต่อย่างไรก็ตามดูจากสถิติของทีมตราหมีที่มาเยือนอังกฤษไม่ค่อยสู้ดีนัก เมื่อชนะแค่ครั้งเดียวจาก 9 หนหลัง โดยแพ้ถึง 4 และด้วยความพิเศษของกุนซือแฮปปี้ วัน "โชเซ่ มูรินโญ่" เชื่อว่าต้องมีทีเด็ดไว้ในใจอยู่แล้วในบิ๊กแมตช์ระดับนี้ โอกาสเป็นไปได้ที่จะชนะก็ต้องถือหาง "สิงห์ไฮโซ" ดีกว่า