ลิเวอร์พูล - นิวคาสเซิ่ล (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
วันที่ : 11 พฤษภาคม 2557
เวลา : 21:00 น.
ถ่ายทอดสด : ไทยรัฐทีวี, CTH สเตเดี้ยม 2
เปรียบเทียบความพร้อมของทีม ลิเวอร์พูล : "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ภายใต้การทำงานของกุนซือตาหวาน "เบรนแดน ร็อดเจอร์ส" ยังเหลือความหวังในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก แม้จะริบหรี่เต็มทน หลังออกไปโดน คริสตัล พาเลซ บด 3-3 เมื่อคืนวันจันทร์ ทำให้เหลือทางเดียวคือภาวนาให้ แมนฯ ซิตี้ พ่ายคาบ้านในนัดสุดท้าย แล้วตัวเองชนะ นิวคาสเซิ่ล
ความพร้อมก่อนเกมนัดปิดซีซั่นที่ แอนฟิลด์ วันอาทิตย์นี้ มีข่าวดีเมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางจอมขยันทีมชาติอังกฤษ พร้อมกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง หลังหายหน้าไปสามนัดหลังสุดเพราะติดโทษแบนจากใบแดงตั้งแต่เกมกำราบ แมนฯ ซิตี้ 3-2
เท่ากับว่า เวลานี้ กุนซือหนุ่มชาวไอร์แลนด์เหนือ เหลือแค่ โฆเซ่ เอ็นริเก้ กับ เซบาสเตียน โคอาเตส สองกองหลังที่พักยาวเท่านั้น ส่วนที่เหลือต่างพร้อมทำตามหน้าที่ของตัวเองด้วยการเอาชนะ สาลิกาดง ไว้ก่อน
บีร็อด เตรียมพร้อมจัดทัพลุยแหลกหวังคว้าชัยกำนัลแด่แฟนๆ โดย ซิมง มิโญเล่ต์ โกลมือกาวจะเฝ้าเสาหลังแผงแบ็กโฟร์ที่ส่อใช้ มามาดู ซาโก้ คู่ มาร์ติน สเคอร์เทล ต่อไป โดยมี เกล็น จอห์นสัน กับ จอน ฟลานาแกน ขนาบข้างขวา-ซ้าย
ส่วนแดนกลาง คาดว่า เฮนเดอร์สัน กับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ จะกลับมาผนึกกำลังกับกัปตันทีม สตีเว่น เจอร์ราร์ด อีกครั้ง ทำให้ ลูคัส เลวา กับ โจ อัลเลน ต้องนั่งสำรอง ถือเป็นชุดที่ทำผลงานได้สุดยอดก่อนหน้านี้ ส่วนแนวรุกใช้งานเจ้าหนู ราฮีม สเตอร์ลิง ในบทบาทหน้าต่ำหลังคู่หอก แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กับ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวซัลโว 31 เม็ด เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีคนล่าสุด
นิวคาสเซิ่ล : "สาลิกาดง" นิวคาสเซิล ของกุนซือ "อลัน พาร์ดิว" หยุดสถิติปราชัยไว้ที่หกนัดติดต่อกันด้วยการเปิดบ้านทุบ คาร์ดิฟฟ์ 3-0 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และจะมาเยือน แอนฟิลด์ แบบนับถอยหลังรอให้จบฤดูกาลที่ไม่มีอะไรเหลือให้ลุ้น
มีข่าวไม่สู้ดีนักก่อนเกมนี้ เมื่อ ปาปิสส์ ซิสเซ่ กองหน้าผิวหมึกชาวเซเนกัลที่เจ็บมาตั้งแต่เกมพ่าย สวอนซี เมื่อเดือนเมษายน จะต้องขึ้นเขียงผ่าตัดซ่อมแซมหัวเข่า และพักยาวนานถึงสี่เดือนเต็มเลยทีเดียว
ส่วนที่เหลือ ถือว่า พาร์ดิว ที่กำลังโดนแฟนๆ กดดัน ไม่มีปัญหาผู้เล่นตัวหลักๆ บาดเจ็บเพิ่มเติมหรือมีปัญหาความฟิต โดยในรายของ ไรอัน เทย์เลอร์ นักเตะสารพัดประโยชน์ กลับมาซ้อมเบาๆ ได้แล้วหลังไปผ่าตัดหัวเข่ามา
ทั้งนี้ เชื่อว่า พาร์ดิว คงยึด 11 ขุนพลชุดเดิมที่เอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ ได้ นำโดยคู่กองหน้า โชล่า อเมโอบี้ กับ โลอิก เรมี่ ซึ่งรายแรก จะเล่นเต็มที่เพื่อสัญญาใหม่ ส่วนรายหลังที่ถูกยืมมาจาก ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส หวังทิ้งทวนเพื่อเรียกค่าตัวด้วยการระเบิดฟอร์ม
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล : (4-1-2-1-2) : ซิมง มิโญเล่ต์ - เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, มามาดู ซาโก้, จอน ฟลานาแกน - สตีเว่น เจอร์ราร์ด - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - ราฮีม สเตอร์ลิง - แดเนียล สเตอร์ริดจ์, หลุยส์ ซัวเรซ
นิวคาสเซิ่ล : (4-4-1-1) : ทิม ครูล - มาติเยอ เดอบูชี่, ไมค์ วิลเลียมสัน, ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่, พอล ดัมเม็ตต์ - มุสซ่า ซิสโซโก้, ชีค ติโอเต้, ฟูร์นอน อานิต้า, โยอัน กูฟฟร็อง - โลอิก เรมี่ - โชล่า อเมโอบี้
วิจารณ์เกมการแข่งขัน
เกมนี้ "หงส์แดง" จัดหนักจัดเต็มต่อหน้าเหล่าบรรดาแฟนบอลแน่นอน ฟอร์มเล่นในบ้านแข็งแกร่ง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยามที่ต้องเจอกับ "สาลิกาดง" เมื่อไร้พ่ายใน 14 นัดหลังที่เจอกันทุกถ้วย แถมเวลานี้ ทีมเยือนห่อเหี่ยวอย่างมาก ถึงขนาดที่ว่ายิงประตูนอกบ้านไม่ได้เลยถึงหกจากเจ็ดนัดหลัง "ทูน อาร์มี่" ไม่เหลืออะไรให้ลุ้น ปัญหาการบริหารทีมก็เยอะ ไม่ว่าจะดูเหลี่ยมไหน เหล่าเด็กๆ ของกุนซือตาหวานก็จะดาหน้าบุกตั้งแต่เริ่มเกม แล้วพิชิตชัยไปในท้ายที่สุด ก่อนที่จะภาวนาให้เกิดปาฏิหาริย์อีกสนาม