หลังจากที่ได้ไปเก็บตัวพักร้อนกลับมา "ทัพผี" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พกฟอร์มโหดมาด้วยหลัง "ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ" จัดการยิงสองประตูช่วยให้เอาชนะ "เจ้าสัว" ฟูแล่มไปได้ไม่ยากเย็น 4-1 ทะลุเอฟเอ คัพรอบ 4 ไปเรียบร้อย
ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 4
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด
วันเสาร์ที่ 26 มกราคม 2556
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-1 ฟูแล่ม เริ่มเกมมา "ทัพผี" ก็มาได้จุดโทษก่อนเลยจากมาร์ค แคลตเท่นเบิร์กแล้วจากจังหวะที่เตะมุมเปิดเข้ามาแล้วฮิวจ์ไปกางเขนตัดหน้าลูกโหม่งกลายเป็นแฮนด์บอล สุดท้ายกิ๊กส์รับหน้าที่สังหารเองยิงกะให้เสียบโคนเสาซ้ายมือชวาร์เซอร์พุ่งไปปัดถึงด้วยแต่ยังแรงพอจะปลิ้นเข้าประตู แมนฯ ยูไนเต็ดอย่างไว 1-0
ผ่านมา 15 นาทีฟูแล่มพยายามจะเข้าทำเกมบุกแต่ก็ยังไม่ได้จบ ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ดก็ไม่รีบแล้วหลังออกนำไวได้อาศัยลูกสกัดไม่ดีของรีเซ่ไปทีเจอนานี่ฉกไปได้แต่โดนเบียดไว้ทำให้ยิงไม่ค่อยถนัดบอลเลยพุ่งเบาเข้าเสาแรกติดเซฟชวาร์เซอร์
"ปิศาจแดง"เกือบได้จุดโทษอีกแล้วจากจังหวะที่กิ๊กส์งัดบอลเข้าเขตโทษไปให้กับเอฟร่า ดัฟฟ์ที่ตามประกบเจตนาใช้แขนตัดทางบอลชัดเจนแต่คราวนี้แคลตเท่นเบิร์กกลับไม่ให้เป็นจุดโทษแต่อย่างใด
แล้วเกือบจะได้ประตูที่สองอีกแล้วสำหรับเจ้าบ้านจากการจ่ายของอันแดร์สันให้นานี่วิ่งสอดเข้าเขตโทษมาเดี่ยวๆก่อนเปิดไปเสาไกลที่รูนี่ย์จับบอลก่อนแล้วยิงติดเซฟชวาร์เซอร์ก่อนจะเด้งไปชนคานแล้วเคลียร์ออกมา
นาที 24 โอกาสของแมนฯ ยูไนเต็ดมาเรื่อยๆคราวนี้อาศัยลูกวางยาวจากแดนกลางของกิ๊กส์ขึ้นมาให้กับนานี่วิ่งเข้าไปรับในเขตโทษก่อนจะหมุนกลับมาให้เข้าเท้าขวาแล้วเลือกปั่นแต่ก็ยังหลุดเสาไกลออกหลังไป
"เจ้าสัว"พยายามจะตั้งเกมบุกแต่จังหวะสุดท้ายยังต่อไม่ติดแถมยังเจอแมนฯ ยูไนเต็ดสวนกลับมาเกือบเสียประตูเพิ่มด้วยจากราฟาเอลจ่ายเข้าไปตรงกลางให้อันแดร์สันถ่ายออกไปทางซ้ายให้กิ๊กส์กระชากไปริมเขตโทษทางซ้ายแล้วเปิดมาเสาแรกรูนี่ย์เข้าชาร์จแต่ติดเซฟชวาร์เซอร์อีก
โอกาสของฟูแล่มเองก็เกือบตีเสมอได้เหมือนกันในจังหวะที่รุยซ์ฝากให้ซิดเวลล์ก่อนดีดออกไปทางขวาให้รีเธอร์เติมเกมขึ้นมาจนถึงระยะประมาณ 25 หลาแล้วตัดสินใจสับไกทันทีส่งบอลพุ่งหลุดเสาไกลออกไปแค่นิดเดียวเท่านั้น
ช่วงท้ายครึ่งแรกบอลแทบเป็นของ"ปิศาจแดง"ฝั่งเดียวการขึ้นเกมของฟูแล่มแทบไม่ได้ผลเลย เจอตัดได้ตลอดแถมเกือบมีโอกาสได้จบจังๆจากบอลทุ่มให้อันแดร์สันก่อนฝากที่นานี่เลื้อยผ่านรีเซ่มาได้แล้วกึ่งยิงกึ่งเปิดไปหน้าประตูแต่ก็ไม่มีอะไร สุดท้ายจบไปโดยแมนฯ ยูไนเต็ดยังนำอยู่ 1-0
กลับมาเจอกันในช่วงครึ่งหลังก็ได้ลุ้นกันเลยแมนฯ ยูไนเต็ดเกือบจะมีลูกที่สองแล้วจากการสวนกลับแล้วออกไปทางขวาให้กับนานี่เลี้ยงๆล็อกๆทำเอารีเซ่ล้มไปแล้วก่อนจะปาดไปตรงกลางหวังให้ชิชาร์ริโต้เจอชวาร์เซอร์ปัดออกมาเข้าทางรูนี่ย์ยิงสวนไปแต่ยังติดบล็อกของฮิวจ์อยู่
แล้วนาที 50 "ปิศาจแดง"มาได้ลูกที่สองสมใจจากบอลฝากมากลางสนามให้กับอันแดร์สันก่อนจะจ่ายทะลุช่องให้รูนี่ย์หลุดมาไม่ล้ำหน้าทำท่าจะยิงด้วยขวาก่อนล็อกหนีฮิวจ์เข้าซ้ายแล้วได้สับไกเต็มแรงส่งบอลพุ่งหายเข้าเสาแรกไปไม่เหลือ แมนฯ ยูไนเต็ดนำห่างเป็น 2-0
เจ้าบ้านบดจนเอาประตูที่สามได้แบบในอีกไม่กี่นาทีให้หลังเริ่มจากรูนี่ย์จ่ายตัดแนวรับให้นานี่หลุดเข้าไปเปิดยังติดกลับมาเข้าทางนานี่ดึงจังหวะแล้วคืนให้รูนี่ย์ตามมาเปิดเรียด นานี่สะกิดนิดนึงบอลลอยขึ้นมาให้ชิชาร์ริโต้ถอยกลับมาตวัดยิงตูมเดียวหายเข้าประตู แมนฯ ยูไนเต็ดสบายแล้วนำ 3-0
เกมนิ่งไปพอสมควรแล้วแต่นาที 66 "ปิศาจแดง"ยังได้ประตูเพิ่มอีกลูกจากจังหวะที่โจนส์โขกบอลโด่งขึ้นไปให้กับกิ๊กส์มองแล้วจ่ายทะลุขึ้นหน้าเข้าเขตโทษให้กับชิชาร์ริโต้ล็อกเข้าขวาแล้วยิงไปแฉลบฮิวจ์แล้วกลายเป็นดีทำชวาร์เซอร์หลงบอลเข้าประตูไป
จากนั้นฟูแล่มได้ครองบอลเป็นส่วนใหญ่แล้วทางแมนฯ ยูไนเต็ดไม่ได้บีบเร่งอะไรมาก รอจังหวะตัดแล้วสวนอย่างเดียวแถมได้จบด้วยจากเอฟร่าพาบอลขึ้นมาเองทางซ้ายก่อนจ่ายไปหน้าประตูให้เอร์นานเดซได้ตั้งป้อมปั่นกะให้เสียบเสาไกลแต่ก็หลุดกรอบไปพอสมควร
สุดท้าย"เจ้าสัว"ก็มาได้ประตูปลอบใจมาลูกนึงในนาที 76 จากจังหวะเตะมุมทางขวาโดยคารากูนิสเปิดเข้าไปที่เสาแรกมีฮิวจ์วิ่งฉีกจากรูนี่ย์มาก่อนได้โขกยัดเสาแรกเด เกอาปัดไม่ทัน ฟูแล่มไล่มาห่างๆ 4-1
แมนฯ ยูไนเต็ดมากันอีกทีเริ่มต้นโดยคากาวะฝากบอลไปให้กับรูนี่ย์หมุนกลับมาจ่ายคืนให้คากาวะหลุดเข้าไปในเขตโทษแล้วได้จบด้วยแต่น่าเสียดายบอลมันเหินข้ามคานออกไป
ท้ายเกม"ปิศาจแดง"เฮเก้อกันไปนึกว่าได้ลูกที่ห้าแล้วจากจังหวะที่วาเลนเซียจ่ายเข้าในเขตโทษให้นานี่ก่อนฝากต่อให้ราฟาเอลแล้วส่งต่อไปทางซ้ายที่เอร์นานเดซเบียดกับตัวประกบล้มลงแล้วบอลเลยมาถึงรูนี่ย์ยิงเข้าประตูแต่แคลตเท่นเบิร์กจับฟาวล์จังหวะ"ถั่วน้อย"ไปก่อนแล้ว
ทดเจ็บนานี่ได้ยิงไกลหลุดเสานิดเดียว ก่อนจบเกมที่แมนฯ ยูไนเต็ดเอาชนะฟูแล่มได้ไม่ยากเย็น 4-1 เก็บชัยชนะในบ้านเป็นเกมที่ 6 ติดต่อกันทุกรายการพาตัวเองผ่าเข้าสู่เอฟเอ คัพรอบต่อไปรอผลจับสลากในวันพรุ่งนี้
